ตำรวจจับ 2 วัยรุ่นก่อเหตุชิงทรัพย์ร้านสะดวกซื้อ 2 ครั้งพบมีหมายจับค้างเก่าคุมตัวทำแผน
ข่าวอยุธยา จากกรณีในพื้นที่ สภ.พระนครศรีอยุธยา มีคนร้ายก่อเหตุใช้อาวุธมีดเข้าไปชิงทรัพย์ที่ร้านสะดวกซื้อสาขาริมทางรถไฟ ต.หัวรอ อ.พระนครศรีอยุธยา กลางดึกวันที่ 30 มี.ค. และกลางดึกคือวันที่ 15 พ.ค. ที่ร้านสะดวกซื้อสาขาชุมชนสำเภาล่ม ต.สำเภาล่ม อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา จาการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบว่าเป็นคนร้ายรายเดียวกันทั้ง 2 สาขา ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น ความคืบหน้าล่าสุด
ความคืบหน้าล่าสุดวันที่ 18 พ.ค.พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผบชภ.1 พล.ต.ต.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ รอง ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.โชคชัย งามวงศ์ รองผบก. พ.ต.อ.ณพล กลัดเข็มเพชร รองผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา พ.ต.อ.ภัทรภัทร นุชยวง ผกก.สส. ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา ควบคุมตัวนายนพพล อิศรางกูร ณ อยุธยา อายุ 22 ปี ผู้ต้องหาใช้อาวุธมีดก่อเหตุ ชิงทรัพย์ร้านสะดวกซื้อสาขา ริมทางรถไฟ และสาขาชุมชนสำเภาล่ม ได้เงินเป็นเหรียญชนิดต่างๆกว่า 12,000 กว่าบาท ตามหมายจับของศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ในข้อหาร่วมกันชิงทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยมีอาวุธ ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ที่ร้านสะดวกซื้อ สาขาสำเภาล่ม อ.พระนครศรีอยุธยา เป็นรถจักรยานยนต์ยามาฮ่า สีแดงขาว หมายเลขทะเบียน 1กณ-2974 พระนครศรีอยุธยา อาวุธมีดปาดตาล ชุดเสื้อผ้าที่ใช้ในการก่อเหตุ
เริ่มตั้งแต่นายโอ๊ต นามสมุติ อายุ 16 ปี ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมตัวแล้ว ขับขี่รถจยย. มีนายนพพล อิศรางรกูร ณ อยุธยา อายุ 22 ปี ซ้อนท้าย เข้ามาจอดที่หน้าร้าน จากนั้น นายนพพล ได้ชักอาวุธมีดออกมา เดินไปที่บริเวณตู้เก็บเงินด้านหลังเคาน์เตอร์ชำระเงิน จี้บังคับพนักงาน แล้วใช้มือล้วงหยิบเงินเหรียญ รวมเป็นเงินประมาณ 5,000 บาท โทรศัพท์มือถือ สุรา 2 ขวด นายโบ๊ต นามสมมุติ ที่ร่วมก่อเหตุยืนถืออาวุธมีดคุมเชิงอยู่ เมื่อได้ทรัพย์สินแล้วขับขี่รถจยย.หลบหนีไป
พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผบชภ.1 เปิดเผยว่าภายหลังคนร้ายก่อเหตุได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งรัดจับกุมคนร้ายเพราะก่อเหตุถึง2 ครั้ง จนทำการสืบทราบว่าผู้ก่อเหตุชิงทรัพย์ร้านสะดวกซื้อ สาขามริมถทางรถไฟ คือนายนายนพพล อิศรางกูร ณ อยุธยา อายุ 22 ปี จึงได้รวบรวมพยานหลักฐาน ขอศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ออกหมายจับ ติดตามไปจับกุมตัวได้ที่ แฟลตการเคหะแห่งชาตินครหลวง พร้อมด้วยของกลางที่ก่อเหตุชิงทรัพย์ไป ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าการก่อเหตุครั้งแรกทำเพียงคนเดียว ครั้งที่สองได้ร่วมกันกับนายโอ๊ต นามสมุติ อายุ 16 ปี ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามไปจับกุมตัวได้แล้ว สำหรับนายนพพล จากการตรวจสอบพบว่ามีหมายจับในคดีร่วมกันชิงทรัพย์ เมื่อปี 2559 ในเขตพื้นที่ สภ.พระนครศรีอยุธยา จำนวน 2 คดี รวมกับการก่อเหตุในครั้งนี้รวม 4 คดี ที่ก่อเหตุอีกเพราะไม่มีงานทำ ต้องคอยหลบๆ ซ่อนๆ หลบหนีในคดีที่มีหมายจับ จึงต้องก่อเหตุเพื่อหาเงินมาใช้ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำการสืบสวนขยายผลต่อไปอีกว่ามีการก่อเหตุในคดีอื่นอีกหรือไม่