รองผบช.ภาค 1 ติดตามคดีคนร้ายชิงทรัพย์ร้านสะดวกซื้อลั่นไม่ปล่อยคนร้ายเอาไว้นานแน่
จากกรณีคนร้ายเป็นชาย 2 คนสวมเสื้อแจ็คเก็ตแขนยาวสีดำหนึ่งคนอีกคนสวมเสื้อแจ็คเก็ตสีเทา แบบที่มีฮู้ดคลุมศีรษะปิดบังใบหน้า สวมกางเกงขาสั้นขับขี่รถจักรยานยนต์แบบหญิงไม่ทราบสียี่ห้อและหมายเลขทะเบียน เข้ามาจอดบริเวณด้านหน้าร้านสะดวกซื้อ สาขาชุมชนสำเภาล่ม ต.สำเภาล่ม อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา จากนั้นคนร้ายทั้งสองคนได้เดินเข้ามาบริเวณด้านหน้าเคาน์เตอร์ หนึ่งในคนร้ายได้ถืออาวุธมีดเดินตรงเข้าไปหลังเคาน์เตอร์ จากนั้นใช้มีดจี้ให้พนักงานบังคับเปิดลิ้นชักเครื่องคิดเงิน นำเงินสดจำนวน 5,000 บาท เป็นเหรียญทั้งหมดและหยิบเอาโทรศัพท์มือถือ จำนวน 1 เครื่องที่วางอยู่ นอกจากนี้คนร้าย ยังได้ เอาสุราจำนวน 3 ขวด ที่ตู้โชว์ไปด้วย จากนั้นคนร้ายได้วิ่งหลบหนีไป มุ่งหน้าไปทางสะพานอโยธยา เหตุเกิดเมื่อเวลา 03.00 น.วันที่ 15 พ.ค. ที่ผ่านมา ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อเวลา 16.30 น.วันที่ 16 พ.ค.ที่ ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา พล.ต.ต.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ รอง ผบช.ภ.1 พ.ต.อ.ณพล กลัดเข็มเพชร รองผบก. พ.ต.อ.ภัทรภัทร นุชยวง ผกก.สส.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา พ.ต.อ.พ.ต.อ.อาทิตย์ ซิ้มเจริญ ผกก.สภ.พระนครศรีอยุธยา พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ร่วมกันประชุมเพื่อติดตามความคืบหน้าของคดี ใช้เวลาในการประชุมนานกว่า 2ชั่วโมง การประชุมเป็นไปด้วยความเคร่งเครียด
ภายหลังการประชุม พล.ต.ต.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ รอง ผบช.ภ.1 เปิดเผยว่า กรณีเกิดเหตุคนร้ายก่อเหตุชิงทรัพย์ร้านสะดวกซื้อ ในพื้นที่ ของ สภ.พระนครศรีอยุธยา ถึง2 ครั้ง ได้แบ่งหน้าที่การทำงานของชุดสืบสวนให้ออกไปสืบสวนหาข่าวอย่างเร่งด่วน คดีนี้เกิดซ้ำ 2 ครั้ง และตำรวจยังจับกุมไม่ได้ทำให้ คนร้ายย่ามใจเหิมเกริม ประชาชนขาดความเชื่อมั่น ในความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน จึงได้สั่งการให้เพิ่มความเข้มในการป้องกันมากขึ้นและอย่าให้มีเหตุซ้ำอีก ขณะนี้เราพอจะทราบกลุ่มของคนร้ายแล้ว ขอเวลาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำงานสักระยะ คนร้ายอย่าคิดหนีอย่าคิดที่จะต่อสู้ ทางตำรวจเราไม่ปล่อยเอาไว้นานแน่
รายงานข่าวแจ้งว่า ได้มีการนำพยานรายหนึ่ง ที่พบเห็นคนร้าย หลังก่อเหตุชิงทรัพย์จากร้านสะดวกซื้อริมทางรถไฟ ต.หัวรอ อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา เหตุเกิดเมื่อวันที่ 30 มี.ค.2562 เห็นรูปพรรณใบหน้าของคนร้ายได้อย่างชัดเจน มาทำการสอบสวน และจากวิธีการ ลักษณะของคนร้ายที่ก่อเหตุ เป็นรายเดียวกัน ทั้งสองครั้ง ได้มีการสั่ง มีการให้ทำประวัติกลุ่มวัยรุ่นที่ออกมายาวิกาลหลังเที่ยงคืนอย่างละเอียดเอาไว้ด้วย