สองสามีภรรยาเฉียดดับขับรถยนต์กระบะบนถนนสายเอเซียถูกฟ้าผ่าเสาอากาศ
เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 3 เม.ย. ศูนย์วิทยุสามาคมอยุธยารวมใจ หน่วยกู้ภัยอยุธยา ได้รับแจ้ง มีรถยนต์กระบะถูกฟ้าผ่า รถยนต์ได้รับความเสียหาย เหตุเกิดบนถนนสายเอเชียขาเข้ากรุงเทพ ช่วงหลิกกิโลเมตรที่ 26 ต.บ่อโพง อ.นครหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา จัดกำลังเจ้าหน้าที่ไปให้การช่วยเหลือ
พบรถยนต์กระบะ อีซูซุ สีขาว หมายเลขทะเบียน 6935 พระนครศรีอยุธยา จอดเปิดฝากระโปรงรถอยู่ มีนายบุญสอง คงวัฒนา อายุ 47 ปี และนางกิ่งแก้ว คงวัฒนา อายุ 47 ปี สองสามีภรรยา ยืนอยู่รอเจ้าหน้าที่อยู่ด้วยอาการตกใจ ตรวจสอบพบว่าเสาอากาศวิทยุรถยนต์ ที่บริเวณปลายเสาฉีกจนเห็นสายทองแดง ระบบฟ้าในเครื่องยนต์ได้รับความเสียหาย
นายบุญสอง คงวัฒนา อายุ 47 ปี กล่าวว่าตนเองพร้อมภรรยา เดินทางมาจาก จ.อ่างทอง เพื่อกลับบ้านพัก ที่ใกล้กับวัดพระญาติการาม เมื่อมาถึงบริเวณที่เกิดเหตุซึ่งมีลมกรรโชกแรง มีเสียฟ้าร้อง แต่ไม่มีฝนตก ได้ยินเสียงดัง คล้ายยางระเบิด ดังมาก จากนั้นรถยนต์ดับจึงได้ประครองรถให้ชิดขอบทาง รีบลงมาสำรวจพบที่รถพบว่าเสาอากาศวิทยุ ถูกฟ้าผ่า รู้สึกตกใจมาก โชคดีที่ตนเองและภรรยาไม่ได้รับบาดเจ็บ จึงได้รีบโทรของความช่วยเหลือเจ้าหน้าที่
ด้านนายประเสริฐ แสงโป๋ อาจารย์แผนกช่างไฟฟ้ากำลัง วิทยาลัยเทคนิคพระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า สำหรับรถยนต์ที่ถูกฟ้าผ่า มีโอกาสน้อยมากที่จะทำให้ผู้ที่อยู่ในรถยนต์เสียชีวิตหรือได้รับบาดเจ็บ ที่จะบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจะเกิดจากความตกใจหักหลบจะรถไปประสบอุบัติเหตุ เพราะรถยนต์มีการออกแบบมาแล้ว โดยใช้หลักการของกรงฟาราเดย์ เป็นโลหะหุ้มมิดชิดขณะเกิดฟ้าผ่า ผลของการเกิด “กรงฟาราเดย์” หรือเหล็กล้อมตัวรถ และภายในรถมีการส่วนของพลาสติกและไฟเบอร์ป้องกัน ทำให้ผู้อยู่ในรถยนต์คันที่ถูกฟ้าผ่า ไม่เป็นอันตราย เมื่อถูกฟ้าผ่าระบบไฟฟ้าของรถ จะได้รับความเสียหาย หรือพวกกระทะล้อหรือแม๊ครถยนต์ เพราะไฟฟ้าจะกระโดดสู่พื้นถนน สำหรับในช่วงนี้มีฝนฟ้าคะนอง ควรหลีกเลี่ยงที่จะอยู่กลางแจ้ง ใต้ต้นไม้ ถ้าหลีกเลี่ยงไม่ได้ให้ทำตัวขนานกับพื้น