พ่อเฒ่าขับรถไปดูนาหายไปญาติออกตามหาพบเป็นศพลอยอืดรถกระบะจมน้ำ
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 11 ธ.ค. ร.ต.ท.ยุยติ เสริมสุขต่อ รองสว.(สอบสวน) สภ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา รับแจ้งมีรถยนต์กระบะตกคลองมีผู้เสียชีวิต ที่เกิดเหตุบริเวณคลองส่งนากลางทุ่งนา ม.3 ต.ท่าดินแดง อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา รุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วยสมาคมอยุธยารวมใจ
ที่เกิดเหตุพบศพนายอนันต์ พุ่มร่วมใจ อายุ อายุ 71 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1 ม.3 ต.ท่าดินแดง อ. ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา เสียชีวิตลอยคว่ำหน้าอยู่ในคลอง สวมใส่เสื้อแขนยาวสีเขียว กางเกง ขาสั้นสีดำ สภาพศพเริ่มส่งกลิ่นเน่าเหม็น มีเลือดไหลออกมาที่ปาก ตรวจสอบตามร่างกายไม่พบ ร่อยรอยการถูกทำร้าย ภายในคลองพบข้าวของลอยอยู่ในคลอง เจ้าหน้าที่จึงได้ลงค้นหาใน คลองจนพบรถยนต์กระบะ อีซูซุ สีเขียว หมายเลขทะเบียน บต 8215 อ่างทอง จมอยู่ในคลอง ใช้รถยกดึงจากคลองเพื่อตรวจสอบ
นางดารัตน์ นิลกระ อายุ 59 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1 ม.3 ต.ท่าดินแดง อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา หลานของผู้ตายเปิดเผยว่า ผู้ตายได้ขับรถกระบะออกจากบ้านตั้งแต่06.00น. โมงเช้าของวันที่ 10 ธ.ค. เพื่อมาตัดไม้ยูคาที่นาของตน ปกติผู้ตายจะต้องกับบ้านมากินข้าวเที่ยงที่บ้านทุกวัน แต่ผู้ตายไม่ได้กับบ้าน ตนจึงนำข้าวมาให้ที่นาแต่ก็ไม่พบ คิดว่าผู้ตายคงขับรถออกไปธุระที่ไหน จนกระทั่งเวลา 17.00 น. ผู้ตายยังไม่กลับบ้าน จึงไปออกมาตามหาที่นาแต่ก็ไม่พบ พบเพียงแต่แกลลอนน้ำมันสีแดงลอยอยู่ในคลองคิดว่าผู้ตายคงไม่ตกน้ำเพราะหารถไม่เจอ ผู้ตายคงจะขับรถไปที่ไหน จนกระทั่งเช้าวันนี้ได้มีเพื่อนบ้านมาบอกว่าพบศพลอยขึ้นอืดอยู่ในคลอง จึงรีบเดินทางมาดูพร้อมกับแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ทราบ
นางดารัตน์ เล่าต่ออีกว่า ปกติผู้ตายเป็นคนแข็งแรงไม่มีโรคประจำตัวอะไร เส้นทางที่ผู้ตาย ขับรถยนต์ผ่านเป็นประจำ ไม่คิดว่าจะมาเกิดอุบัติเหตุอย่างนี้ ผู้ตายเคยเล่าให้ฟังว่าเคยเห็นผู้หญิงใส่ชุดไทยเดินอยู่บริเวณจุดที่เกิดเหตุ และยังมีชาวบ้านที่มาทำนาในช่วงมืดเคยพบเจอเหมือนกัน ส่วนตัวแล้วตนคิดว่าผู้ตายไม่น่าจะขับรถตกลงไปในคลองเองคงจะมีอะไรมาบังตาทำให้รถตกลงไป
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่คาดว่าผู้ตาย อาจจะขับรถมาตั้งแต่เช้ามืดอาจจะมองไม่เห็นทาง หรือไม่ก็หักหลบรถที่สวนทางมาจึงทำให้รถนั้นเสียหลักตกลงไปในคลอง จากการตรวจสอบที่รถนั้นพบว่ากระจกทั้ง 2 ข้างได้ถูกเปิดทิ้งเอาไว้จึงทำให้น้ำเข้ามาในรถได้ ผู้ตายนั้นมีอายุมากแล้วจึงไม่สามารถที่จะช่วยเหลือตัวเองออกมาจากรถได้ อย่างไงก็ตามเจ้าหน้าที่ต้องทำการตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง ว่าช่วงเวลาที่เกิดเหตุนั้นมีผู้ใดเห็นเหตุการณ์หรือไม่ ส่วนศพผู้เสียชีวิตนั้นได้ส่งไปชันสูตรที่สถาบันนิติเวชโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ เพื่อหาสาเหตุการตายอย่างละเอียดอีกครั้ง