ตำรวจล่าไก่ เชียงรากน้อย ผู้ต้องสงสัยอุ้มฆ่าสายตำรวจทิ้งศพคลองส่งน้ำ
จากกรณี เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ช้างใหญ่ อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา พบศพนายกิฐติ พูลสะสมทรัพย์ อายุ 41 ปี สภาพขึ้นอืด ซึ่งเป็นสาย ตำรวจ สภ.สามโคก จ.ปทุมธานี ถูกคนร้ายไม่ทราบจำนวนฆ่าทุบตีด้วยของแข็งมีบาดแผลบริเวณ คิ้วและท้ายทอยแล้วนำศพมาทิ้งเอาไว้ บริเวณริมคลองส่งน้ำกลางทุ่งนา ม.2 เชียงรากน้อย อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา สืบสวนในเบื้องต้นสันนิษฐานว่าผู้ตายเพิ่งจะให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สามโคก จนไปจับกุมเอเยนต์ยาบ้ารายหนึ่ง แล้วมีการข่มขู่จะฆ่าจนต้องมีการย้ายหอพัก จนกระทั้งมาพบกลายเป็นศพ เมื่อช่วงเช้าวันที่ 28 ก.ย. ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าล่าสุด วันที่ 29 ก.ย. ที่สภ.ช้างใหญ่ อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา พ.ต.อ.สถิตย์ สังข์ประไพ ผกก. สภ.ช้างใหญ่ พ.ต.ต.วิทยา เซ็นบัว สว.กก.สส.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ ชุดสืบสวนภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา สภ.ช้างใหญ่ ได้ร่วมประชุมเพื่อสรุปข้อมูลแนวทางการสืบสวน ผู้ตายน่าจะเสียชีวิตมาก่อนแล้วถูกจับกดน้ำเพราะภายในปากพบคราบโคลนและ ในตัวของผู้เสียชีวิตพบหอยจำนวนมาก ซึ่งในจุดที่พบศพไม่ได้ตกลงไปในน้ำและไม่มีโคลน เจ้าหน้าที่ตำรวจยังได้ตรวจสอบรถซาเล้ง ที่ตรวจยึดมาจากบ้านของต้องสงสัย
จากนั้นนำกำลัง พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ พิสูจน์หลักฐานพระนครศรีอยุธยา ไปตรวจสอบที่บ้านหลังหนึ่ง ซึ่งเป็นบ้านของผู้ต้องสงสัย ในม.3 ต.เชียงรากน้อย อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา อยู่ติดกับทุ่งนา ห่างจากบ้านประมาณ 30 เมตร พบร่องรอยการลากศพจากคลองส่งน้ำเข้านามาเป็นทางจนถึงตัวบ้าน ใกล้กันยังพบรองเท้าของแตะ ของผู้ตาย พระเครื่อง พาวเวอร์แบงค์ ตกอยู่ และรอยเท้าจำนวนมาก ร่องรอยการต่อสู้ จึงได้เก็บไว้เป็นหลักฐาน ตรวจสอบภายในคลองส่งน้ำไม่พบวัตถุต้องสงสัย
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวมาพยานรายหนึ่งซึ่งเห็นเหตุการณ์มาสอบสวน ทราบว่าวันที่ 26 ก.ย.เวลาประมาณ 20.00 น. นายกิฐติ พูลสะสมทรัพย์ อายุ 41 ปี ผู้ตายเข้ามาหานายนารินทร์ หรือไก่ สุทธิ อายุ 43 ปี แล้วมีการโตเถียงกันได้ยินนายไก้ พูดว่า “มึงเป็นสายตำรวจเหรอ” แล้วนายไก่ ได้ใช้ท่อนไม้ตีนนายกิฐติ ผู้ตายแล้ววิ่งหลบหนีไปกลางทุ่งนา จากนั้นพยานไม่กล้าวออกไปดู จนพบเห็นว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจหาพยานหลักฐาน จึงมาให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ
พ.ต.อ.สถิตย์ สังข์ประไพ ผกก. สภ.ช้างใหญ่ กล่าวว่า ในเบื้องต้นขณะนี่จากพยานและหลักฐาน เชื่อว่าได้ว่าผู้ต้องสงสัยได้ลวงให้ผู้ตายมาพบเพื่อพูดคุยเรื่องใดเรื่องหนึ่งแล้วไม่สามารถตกลงกันจึงได้ใช้ทุบตีทำร้ายต่อสู้กันจนหนีตกลงไปในคลองส่งน้ำ แล้วกลัวว่าศพอยู่ใกล้กับบ้านจะถูกติดตามจับกุมตัวได้ จึงได้เคลื่อนย้ายศพขึ้นซาเล้งที่เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจยึดได้ บรรทุกศพนำไปทิ้งบริเวณที่พบศพ ซึ่งเชื่อว่าการเคลื่อนย้ายศพไม่น่าจะทำได้เพียงคนเดียวอยู่ระหว่าการสอบสวน ขยายผลและออกหมายจับผู้ร่วมก่อเหตุ
ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจพบกลุ่มผู้ต้องสงสัยที่นำรถจักรยานยนต์ของผู้ตายไปทิ้ง และช่วยเหลือเคลื่อนย้ายศพ อยู่ระหว่างติดตามหาของกลาง และนำตัวมาสอบสวน