ชายวัย 23 ปี เดินหายไปที่ท่าน้ำหน้าวัด ประดาน้ำงมค้นหาจนพบร่างพกบัตรบริจาคร่างกายให้สภากาชาดไทย

เมื่อเวลา 11.00 นวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2568 ร.ต.อ วุฒิภัทร ช่วยคิด รอง สว.(สอบสวน )สภ. พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา รับแจ้งเหตุมี ชายสูญหายไปภายในแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณท่าน้ำหน้าวัดกษัตราธิราชวรวิหาร ต.บ้านป้อม อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา ประสานนักประดาน้ำของ มูลนิธิร่วมกตัญญู ไปงมค้นหา
สอบถามข้อมูลจากชาวบ้านพบเห็นมีชายรูปร่างอ้วนลอยคออยู่กลางแม่น้ำเจ้าพระยา กำลังจะจมน้ำจึงพยายามจะเข้าไปช่วยแต่ไม่ทันชายคนดังกล่าวจมหายไปภายในแม่น้ำเจ้าพระยา ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดพบว่า เห็นมีชายรูปร่างอ้วน สวมเสื้อสีน้ำเงิน ใส่กางเกงขาสั้นสีดำ เดินออกจากวัดแล้วเดินไปที่ที่ท่าน้ำวัด แล้วหายตัวไป หลังทราบข้อมูลและจุดที่จมหายไป
นักประดาน้ำของมูลนิธิร่วมกตัญญูอยุธยา จึงจัดกำลังลงงมค้นหาทันที ใช้เวลาประมาณ 1ชม.จนพบร่างของชายคนดังกล่าว ตรวจสอบภายในกระเป๋ากางเกงพบบัตร ประจำตัวผู้มีความจำนงบริจาคอวัยวะ ของสภากาชาดไทย ระบุชื่อนายบัญชา ยุวชาติ อายุ 23 ปี เป็นชาวบ้าน ม.7 ต.บ้านป้อม อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา พร้อมกับเบอร์ติดต่อกับทางญาติ จากการตรวจสอบตามร่างกายไม่พบร่องรอยการต่อสู้หรือถูกทำร้าย
สอบถามน.ส นคภรณ์ เกตุโกมุท อายุ 40 ปี เจ้าของ ลอยมณีเฮาส์ ซึ่งอยู่ติดกับวัด เล่าว่าตนเองได้ยินเสียงชาวบ้านฝั่งตรงข้ามตะโกนว่ามีคนตกน้ำจึงมองไปที่แม่น้ำก็พบเห็นผู้ชายกำลังลอยคอชูมืออยู่กลางแม่น้ำจึงบอกให้ ชาวบ้านที่อยู่ติดกันลงกระโดดไปช่วยแต่ไม่ทัน
ด้านนางสวง นัยบุตร อายุ 58 ปี คนงานของวัด เล่าว่าพบเห็นชายคนดังกล่าว วนเวียนเข้าออกวัดได้ประมาณ 1 อาทิตย์แล้ว จะนั่งที่ท่าน้ำ ริมแม่น้ำทุกวันลักษณะเหม่อลอยมองไปที่แม่น้ำ ตามที่ต่างลักษณะจนวันนี้มีเพื่อนคนงานเห็นชายคนดังกล่าวเดินเข้ามาที่วัดเหมือนทุกวันรแล้วตรงไปที่ท่าน้ำแล้วหายตัวไป
ต่อมา นางพรทิพย์ ยุวชาติอายุ 57 ปี แม่ของผู้เสียชีวิต หลังทราบข่าวจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้เดินทางมาที่เกิดเหตุ พร้อมกับให้ข้อมูลว่า ลูกชายมีอาการป่วยจิตเวช ที่แรกได้รับทราบข่าวผ่านสื่อโซเชียลว่า มีจมน้ำสูญหายที่ท่าน้ำหน้าวัด จึงเดินทางมาดูไม่คิดว่าจะเป้นลูกชาย จากนั้นกลับไปถึงบ้าน มีเจ้าหน้าที่ โทรศัพท์ติดต่อบอกว่าเป็นลูกชายของตนเอง จมน้ำเสียชีวิตจึงรีบย้อนกลับมาอีกรอบ
ส่วนที่ลูกชายมีการบริจาค อวัยวะนั้นตนเองไม่ทราบเรื่องเลยเพราะลูกชายไปทำคนเดียวแต่มารู้แค่ว่ามีบัตรของทางโรงพยาบาลส่งมาที่บ้าน ทางครอบครัวไม่ได้ติดใจในการเสียชีวิต ส่วนร่างของลูกชายถ้าเป็นความประสงค์ของลูก คงต้องส่งให้ทางโรงพยาบาลที่ร่างบริจาคไว้