พ่อฝากลูกสาว 3 ขวบ ไว้กับลูกชายต่างภรรยา ไปฉี่กลับมา หนูน้อยจมน้ำดับ
เมื่อเวลา 01.30 น. วันที่ 6 ก.พ. 2567 พ.ต.ต.มาลา แย้มชม สว.(สอบสวน) สภ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา รับแจ้งมีเด็กหญิงอายุ 3 ขวบ จมน้ำคลองสูญหาย บริเวณท่าน้ำ ฝั่งตรงข้ามกับวัดชุมพลนิกายารามราชวรวิหาร ต.บ้านเลน อ.บางปะอิน จึงรุดตรวจสอบ พร้อมประสานนักประดาน้ำของสมาคมอยุธยารวมใจไปทำการค้นหา
ที่เกิดเหตุพบรองเท้าแตะลอยอยู่ในน้ำ 1 คู่ มีนายเกษม อายุ 48 ปี และน.ส.มัทนา อายุ 28 ปี พ่อและแม่ของ ด.ญ.ฟ้าใส อายุ 3 ขวบ ที่จมน้ำสูญหายไป อยู่ในอาการตกใจ ร้องไห้ตลอดเวลา ยกมือไหว้ขอเจ้าที่เจ้าทาง พระแม่คงคา ให้พบเจอลูกสาวอย่างปลอดภัย
เจ้าหน้าที่ได้กระจายกำลังงมค้นหาภายในคลอง พบว่าระดับน้ำกำลังลดลง ทำให้ใต้น้ำมีกระแสน้ำไหลแรง ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง จึงพบร่างน้องฟ้าใสจมอยู่ห่างจากท่าน้ำประมาณ 50 เมตร เมื่อนำร่างขึ้นมาได้ ทั้งพ่อและแม่ของน้องฟ้าใสต่างร้องไห้แทบขาดใจ โผเข้ากอดร่างลูกสาว พร้อมเรียกชื่อลูกสาวให้ตื่นขึ้นมา
สอบถามนายเกษม พ่อของน้องฟ้าใส กล่าวว่า ตนพาน้องฟ้าใสมาหาลูกชาย อายุ 29 ปี ซึ่งเป็นลูกติดกับอดีตภรรยา ที่มานอนพักอาศัยอยู่ที่ศาลาท่าน้ำ เพื่อนำน้ำดื่มมาให้ จังหวะนั้นตนปวดปัสสาวะ จึงฝากน้องฟ้าใสไว้กับลูกชาย แล้วเดินไปปัสสาวะใกล้กับศาลาได้ประมาณ 5 นาที พอกลับมาเห็นลูกชายนอน ไม่เห็นน้องฟ้าใส
นายเกษม กล่าวต่อว่า ตนถามว่าน้องฟ้าใสไปไหน ลูกชายบอกไม่เห็นน้อง ตนจึงลงไปดูที่ท่าน้ำ เจอแต่รองเท้าแตะของลูกสาวลอยอยู่ในน้ำ และท่าน้ำมีรอยน้ำกระเด็น จึงกระโดดลงไปงมค้นหาในคลอง แต่หาไม่เจอ จึงไปขอความช่วยเหลือชาวบ้านและโทรหาภรรยาซึ่งไปทำงานโรงงานให้รีบกลับมาช่วย
นายเกษม กล่าวเพิ่มเติมว่า ลูกชายของตนหายตัวไปหลังเกิดเหตุ คงกลัวญาติของภรรยาจะทำร้ายที่ปล่อยน้องฟ้าใสจมน้ำ ก่อนหน้านี้ลูกชายเคยทำงานโรงงานแล้วตกงาน จนต้องมาอาศัยอยู่กับตนระยะหนึ่ง แต่ทะเลาะและมีปัญหากับภรรยาปัจจุบันของตน จนต้องออกมานอนอยู่ที่ศาลาท่าน้ำ
ด้าน น.ส.มัทนา แม่ของน้ำฟ้าใส กล่าวว่า ขณะอยู่ในช่วงพักที่โรงงาน สามีโทรไปบอกว่าลูกสาวตกน้ำ จึงรีบกลับมาพร้อมโทรแจ้งกู้ภัยให้มาช่วยงมค้นหา ทราบจากสามีว่าฝากน้องฟ้าใสไว้กับลูกชาย พอกลับมาแล้วลูกสาวหายไป ตนตกใจมาก ไม่เคยปล่อยให้ลูกไปไหนกับใคร ส่วนตัวตนไม่ถูกกับลูกชายของสามีที่มีอายุห่างกันเพียง 1 ปี
ด้านตำรวจได้สอบตามร่างกายของน้องฟ้าใสในเบื้องต้นไม่พบร่องรอยการต่อสู้หรือถูกทำร้าย จึงเชิญนายเกษม อายุ 29 ปี ไปสอบสวน และจะติดตามตัวลูกชายมาสอบสวน เพราะอยู่กับน้องฟ้าใสคนสุดท้าย ก่อนตกลงคลองเสียชีวิต โดยส่งร่างของน้องฟ้าใสไปชันสูตรอย่างละเอียดที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เพื่อหาสาเหตุของการเสียชีวิต และดำเนินการตามกฎหมายต่อไป