ข่าวอยุธยา | khaoayutthaya.com | ข่าว | อยุธยา | พระนครศรีอยุธยา | ข่าวด่วน | ข่าวอุบัติเหตุอยุธยา | ข่าวอาชญากรรมอยุธยา | วัดป้อมแก้ว | หลวงพ่อเพิ่ม

เกลี้ยกล่อมไม่เป็นผลชายพิการโยกสามล้อไม่ยอมเคลื่อนย้ายออกจากวัด เรียกร้องสิทธิ์ให้ผู้พิการ

เจ้าหน้าที่สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.พระนครศรีอยุธยา นายธราพงษ์ สุรวงศ์ ปลัดอำเภอบางปะหัน และ พ.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา ได้เข้ามาเจรจาไกล่เกลี่ยกับชายผู้พิการที่โยกรถสามล้อมาจาก จ.สุโขทัย และมาพักชั่วคราวอยู่ภายในวัดเทพอุปการาม หรือวัดตานิม อ.บางปะหัน จ.พระนครศรีอยุธยา
โดยเจ้าหน้าที่พยายามเจรจาเกลี้ยกล่อม เพื่อที่จะพาชายรายนี้ไปดำเนินการเรื่องเอกสารบัตรประจำตัวประชาชน ที่ อ.บางปะหัน สำหรับใช้ดำเนินการยื่นขอสิทธิ์รับเบี้ยผู้พิการ ซึ่งเจ้าตัวยินดีที่จะไปทำบัตร แต่จะต้องหลังจากที่ไปพบกับผู้บริหารกรมบัญชีกลาง และกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ก่อน

ในระหว่างที่เจรจา เจ้าหน้าที่ได้ยื่นโทรศัพท์ให้ชายรายนี้ดูเอกสารข้อมูลทะเบียนราษฎร์ เพื่อยืนยันว่าได้ดำเนินการช่วยเหลือแล้ว ชายรายนี้จึงชูโทรศัพท์ขึ้นให้นักข่าวดู และบอกว่า “ปิ๊ง! นี่ไง ได้แล้วเอกสาร”
จากนั้นผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามว่า ในเมื่อได้รับเอกสารแล้ว ทำไมยังยืนยันที่จะเดินทางเข้ากรุงเทพฯ อยู่ ซึ่งเจ้าตัวบอกว่า จะไปแฉ และบอกว่าจะให้กระทรวง พม. ปลดป้ายลง เพราะชื่อที่ติดอยู่สวยหรู แต่กลับไม่ได้ช่วยเหลืออะไรเลย ตนต้องการเป็นตัวแทนในการไปพูดคุยกับผู้ใหญ่ เพื่อทวงสิทธิ์ให้กับกลุ่มผู้เปราะบาง และตนมีเอกสารที่จะส่งให้ดูด้วย
ชายคนดังกล่าวยืนยันว่า การออกมาของตนไม่ได้มาสร้างความเดือดร้อนให้กับใคร และไม่ได้ต้องการรับเงินบริจาคหรืออะไรใด ๆ ทั้งสิ้น แต่อยากเรียกร้องตามสิทธิ์ที่หายไป และช่วยเหลือผู้พิการรายอื่น ๆ ที่มีปัญหาเหมือนกับตน พร้อมยืนยันว่า ที่พูดที่ให้สัมภาษณ์กับสื่อ ตนมีสติสัมปชัญญะดี จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ขอความร่วมมือให้สื่อมวลชนออกจากพื้นที่ เพื่อไม่เป็นการกดดันชายรายนี้

ด้านนายธราพงษ์ สุรวงศ์ ปลัดอาวุโสอำเภอบางปะหัน กล่าวว่า เบื้องต้นชายรายนี้ ชื่อถูกย้ายมาอยู่ที่ทะเบียนกลาง เนื่องจากว่าถูกออกหมายจับ เมื่อปี 2563 แต่หลังจากคดีสิ้นสุด เจ้าตัวไม่ได้ไปติดต่อกับทางราชการเพื่อดำเนินการด้านเอกสาร จึงทำให้ถูกตัดสิทธิ์

กระทั่งเดินทางไปขอทำบัตรประชาชนที่ อ.ศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัย จึงทราบว่าถูกตัดสิทธิ์ จึงทำการทวงสิทธิ์ ขอรับเบี้ยผู้พิการ ซึ่งในกรณีนี้จะต้องมีการตรวจสอบข้อเท็จจริงอีกครั้ง ว่าเกิดจากความเข้าใจคาดเคลื่อนของเจ้าหน้าที่ด้วยหรือไม่ เพราะตามหลักการแล้ว เจ้าตัวต้องเอาใบบริสุทธิ์ไปยืนยันสิทธิ์กับเจ้าหน้าที่ที่อำเภอ
ทั้งนี้ เมื่อสอบถามว่าช่วงระยะเวลาที่ถูกตัดสิทธิ์ จะมีผลย้อนหลังในการรับเบี้ยหรือไม่ ทางเจ้าหน้าที่ยืนยันว่า ไม่มีผลย้อนหลัง
ต่อมา แพทย์และเจ้าหน้าที่จาก รพ.บางปะหัน เดินทางมาตรวจสุขภาพ พบว่าความดันสูงประมาณ 236 และจากการเกลี้ยกล่อมของเจ้าหน้าที่ และเจ้าอาวาสวัดอินกัลยา ปรากฏว่า ไม่เป็นผล ชายคนดังกล่าวยืนยันว่าจะนอนที่วัดเทพอุปการาม

พ.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผบก.พระนครศรีอยุธยา เปิดเผยกับสื่อมวลชนว่า สำหรับการเจรจาในวันนี้นั้นพบว่า ยิ่งเจรจายิ่งมากความ และจากการสังเกตพบว่าชายคนนี้มีแววตาล่อกแล่ก ไม่แน่ใจว่าเป็นผลมาจากการที่เคยใช้สารเสพติด หรือความเครียด ซึ่งก่อนหน้านี้เจ้าตัวได้ท้าให้ตรวจสารเสพติด แต่เมื่อเจ้าหน้าที่จะตรวจ กลับไม่ให้ความร่วมมือ

สำหรับเรื่องคดีความนั้น จากการตรวจสอบพบว่ามีคดีลักทรัพย์ แต่คดีสิ้นสุดไปแล้ว และยังมีอีกหลายคดี จะต้องไปทำการตรวจสอบรายละเอียดต่อไป

คืนนี้ ได้มีการจัดทีมแพทย์, ตร. สภ.บางปะหัน และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองคอยเฝ้าดูแล และป้องกันการหลบหนีอีก โดยจะมีการพูดคุยเจรจาอีกครั้งในวันพรุ่งนี้ ว่าจะดำเนินการทำบัตรประชาชนเลยหรือไม่ อย่างไร
ทางด้าน พญ.วิภาวี เกตุวัง แพทย์ รพ.บางปะหัน เปิดเผยว่า ในตอนแรกชายคนดังกล่าวมีความดันสูง แต่เมื่อตรวจอีกครั้งพบว่าค่าความดันลดลงมา ในขณะที่อัตราการเต้นของหัวใจก็สูงเช่นกัน ซึ่งคาดว่าอาจจะมาจากความเครียด




คุณอาจสนใจข่าวนี้

error: เนื้อหา และภาพข่าวมีลิขสิทธิ์ห้ามนำไปเผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญาติ