สงสารแรงงานต่างด้าว 23 คน นั่งอัดกันแน่นเต็ม 2 ชั้นในกระบะตู้ทึบ
วันที่ 8 ม.ค. 2567 พ.ต.ต.ปภินวิทย์ อุดมพร สว.ส.ทล.1 กก.1 บก.ทล. เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 13.30 น. รถยนต์สายตรวจของตำรวจทางหลวง รถยนต์สายตรวจตำรวจทางหลวงอยุธยา ออกตรวจป้องกันเหตุอยู่บนถนนสายเอเชีย ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงหลักกิโลเมตรที่ 34-35 ต.บ้านลี่ อ.บางปะหัน จ.พระนครศรีอยุธยา
ระหว่างนั้นพบรถยนต์กระบะตู้ทึบ ยี่ห้ออีซูซุ สีเทา หมายเลขทะเบียน บม 176 กำแพงเพชร ขับขี่ผ่านมาโดยใช้ความเร็วสูงและเปลี่ยนช่องทางกะทันหันไปมาซ้ายและขวา จึงขับติดตามไปพร้อมกับเปิดสัญญาณไฟเรน และเรียกให้หยุดรถเพื่อขอตรวจสอบ
พบนายพิสันต์ เพ็งลำ อายุ 30 ปี ชาว จ.กำแพงเพชร เป็นคนขับรถ ภายในตู้ทึบด้านหลัง พบแรงงานเพื่อนชาวเมียนมา 23 คน เป็นหญิง 7 คน ชาย 16 คน นั่งอัดแน่นกันอยู่ในรถที่ใช้ไม้กระดานแบ่งกั้นพื้นที่เป็น 2 ชั้น
ตรวจสอบไม่พบหนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทาง จึงควบคุมมาสอบสวนที่ สภ.บางปะหัน จ.พระนครศรีอยุธยา แรงงานหลายคนอยู่ในสภาพอิดโรย เพราะนั่งมาในกระบะตู้ทึบท่ามกลางสภาพอากาศร้อนจัด ตำรวจทางหลวงต้องรีบหาอาหารและน้ำดื่มให้
สอบถามนายพิสันต์ ให้การว่า ตนมีอาชีพขับรถขนผัก แต่เงินไม่พอใช้ มีเพื่อนชักชวนให้มารับจ้างขับรถขนแรงงานต่างด้าวรายได้ดี ทำมาแล้ว 3-4 ครั้ง ครั้งนี้ติดต่อให้ไปรับแรงงานต่างด้าว 23 คน จาก จ.ตาก มาส่งที่ อ.บางปะอิน
สอบถาม น.ส. ปู อายุ 32 ปี แรงงานต่างด้าวที่ถูกจับกุม กล่าวว่า ลักลอบเดินทางเข้ามาในประเทศไทยทางช่องทางธรรมชาติและเดินข้ามมาใน อ.แม่สอด จ.ตาก และขึ้นรถเข้ามาหางานทำในประเทศไทย ตนเสียค่าใช้จ่าย 12,000 บาท บางคน 15,000-20,000 บาท โดยมีเพื่อนชาวเมียนมาแนะนำมา
เบื้องต้นตำรวจทางหลวงได้ควบคุมตัวแรงงานทั้งหมด พร้อมคนขับรถ ส่งพนักงานสอบสวน สภ.บางปะหัน ดำเนินคดีคนขับในข้อหารู้ว่าคนต่างด้าวคนใดเข้ามาในราชอาณาจักรโดยฝ่าฝืนกฎหมาย ให้เข้าพักอาศัย ซ่อนเร้น หรือช่วยด้วยประการใดๆ เพื่อให้คนต่างด้าวนั้นพ้นจากการจับกุม
ส่วนแรงงานทั้งหมดถูกดำเนินคดีข้อหาเป็นคนต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต จากนั้นได้ประสานตำรวจตรวจคนเข้าเมืองผลักดันแรงงานต่างด้าวทั้งหมดกลับประเทศต่อไป