เมียป่วยติดเตียง ผัวป่วยติดเชื้อต้องตัดขา ตัดสินใจจบชีวิต 2 ศพคาห้องเช่า
วันที่ 25 ธ.ค.66 พ.ต.ต.รักชาติ ประสพผล สว.(สอบสวน) สภ.นครหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา รับแจ้งมีสามีภรรยาผูกคอเสียชีวิต ภายในห้องเช่า ต.บ่อโพง อ.นครหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา จึงไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยตำรวจชุดสืบสวน และสมาคมอยุธยารวมใจให้การสนับสนุน
ที่เกิดเหตุพบเป็นห้องเช่าชั้นเดียว แบ่งให้เช่าเป็นหลังๆ ภายในห้องนอนพบศพนายชาญ อายุ 75 ปี ใกล้กันพบรถวีลแชร์และบันไดพิงอยู่กับฝาพนัง บริเวณปลายเตียงพบศพน.ส.พรรณี อายุ 73 ปี สภาพศพนั่งพิงกับเตียง
สอบถามนายสุวรรณ อายุ 78 ปี พี่ชายนายชาญ ผู้เสียชีวิต ทราบว่า น้องชายมีอาชีพรับเหมาก่อสร้าง ส่วนภรรยาเป็นแม่ค้าขายข้าวแกงอยู่กินด้วยกันมาหลายปี ต่อมาภรรยาของน้องชายป่วยติดเตียงด้วยโรคประจำตัวหลายโรค น้องชายดูแลมากว่า 6 ปี จนเมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมาน้องชายมีอาการปวดที่ขาข้างซ้ายและมีบาดแผล จนไม่สามารถออกไปทำงานได้ ไปหาหมอพบว่ามีอาการติดเชื้อ จะต้องตัดขา ทำให้น้องชายเกิดความเครียด ทำงานไม่ได้และขาดรายได้ ไปไหนมาไหนไม่ได้ ดูแลภรรยาไม่ได้
ช่วงเย็นได้โทรศัพท์มาหาตนว่าอยากกินน้ำพริกปลาร้า จึงซื้อมาให้พร้อมกับแกงอีก 2 ถุง ยังบอกให้ตนเอาเครื่องมือช่างกลับไปใช้ด้วย นั่งคุยกับกินข้าวไป น้องชายร้องไห้ตลอดเวลา น้องชายจะบ่นว่าอยากตาย สงสารภรรยา ตนได้แต่ปลอบใจ จนช่วงเช้าวันนี้ได้มาหาน้องชาย ซื้อขนมและกาแฟมาฝาก ก่อนมาเห็นห้องยังปิดอยู่ จึงเปิดประตูเข้าไป ตกใจมากที่เห็นน้องและภรรยาผูกคอเสียชีวิต
ด้านเพื่อนบ้านบอกว่า ตนเองรู้จักกับสามีภรรยาที่รักกันมาก ช่วยเหลือกันทำหากินขายข้าวแกง ตนป็นลูกค้าประจำตั้งแต่สมัยเรียนจนมีความผูกพันกัน ระยะหลังน.ส.พรรณี ล้มป่วยติดเตียง จะคอยแวะเวียนพูดคุยให้กำลังใจ ซื้อกับข้าวมาฝาก ต่อมานายชาญเริ่มล้มป่วยบ่นว่าอยากตาย ซึ่งให้กำลังใจปลอบใจว่าจะคอยช่วยเหลือดูแล ไม่คิดว่าจะมาตัดสินใจด้วยกันแบบนี้
ด้านตำรวจตรวจสอบภายในห้องพักและบริเวณโดยรอบไม่พบร่องรอยการต่อสู้ การรื้อค้นทรัพย์สิน พบซองยาของผู้เสียชีวิตจำนวนหลายซอง หัวเตียงพบภาพถ่ายคู่กันของผู้เสียชีวิต ตำรวจได้ถ่ายภาพบริเวณโดยรอบของห้องเช่าและเก็บเอกสารเกี่ยวกับอาการป่วยของผู้เสียชีวิตทั้ง 2 รายเป็นหลักฐาน คาดว่าน่าจะเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 4-5 ชั่วโมง