ข่าวอยุธยา | khaoayutthaya.com | ข่าว | อยุธยา | พระนครศรีอยุธยา | ข่าวด่วน | ข่าวอุบัติเหตุอยุธยา | ข่าวอาชญากรรมอยุธยา | วัดป้อมแก้ว | หลวงพ่อเพิ่ม

จอมโจรสาว แปลงตัวหลังก่อเหตุชิงทองหนัก 2 บาท ตบตาตำรวจ ไปไม่รอดตำรวจจำรองเท้าแตะได้

วันที่ 24 พ.ย. 2566 พ.ต.อ.ภูริส จินตรานันท์ รรท.ผกก. พ.ต.ท.กันตภณ ธนาธิปปิ่นสกุล รอง ผกก.สส. สภ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน คุมตัว น.ส.ยุพา (สงวนนามสกุล) อายุ 43 ปี ลูกจ้างร้านก๋วยเตี๋ยว ผู้ต้องหาก่อเหตุชิงสร้อยคอทองคำหนัก 2 บาท ของนางเอ (นามสมมุติ) อายุ 62 ปี ผู้เสียหาย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 21 พ.ย. ที่ผ่านมา ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ที่บริเวณริมถนนอู่ทอง ใกล้กับตลาดเจ้าพรหม ต.หอรัตนไชย อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา

โดยเริ่มจากผู้เสียหายจอดรถยนต์อยู่ ผู้ต้องหาได้มาเคาะกระจกรถยนต์ อ้างว่าผู้เสียหายทำของตกจึงลดกระจกลง จังหวะนั้น น.ส.ยุพา ได้กระชากสร้อยคอทองคำจากคอ วิ่งหลบหนีไปยังตลาดเจ้าพรหม โดยเข้าไปด้านหลังตลาดเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้า จากชุดวัยรุ่นมาเป็นชุดคนวัยทำงาน จากนั้นเดินอ้อมตลาดไปเอา จยย. ที่จอดไว้ในสวนสาธารณะวัดประสาท ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 1 กิโลเมตร

ด้าน พ.ต.อ.ภูริส กล่าวว่า หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา ชุดสืบสวน สภ.พระนครศรีอยุธยา ได้ร่วมกันสืบสวนติดตามคนร้ายจากกล้องวงจรปิดตามจุดต่าง ๆ กระทั่งพบว่า ผู้ต้องหาใส่เสื้อคลุมสีดำ กางเกงยีน รองเท้าแตะสีดำ วิ่งหายเข้าไปในตลาดเจ้าพรหม จากนั้นไม่นาน ก็มีหญิงสาวรูปร่างใกล้เคียงกัน แต่แต่งกายในชุดกระโปรงสีชมพู สวมรองเท้าแตะสีดำแบบเดียวกันเดินออกมาจากตลาด ทำให้ตำรวจติดตามตัวจนพบ ขณะอยู่ในร้านขายก๋วยเตี๋ยว สถานที่ที่ผู้ต้องหาทำงานเป็นลูกจ้างและพักอาศัยอยู่ด้วย

บื้องต้นให้การรับสารภาพว่า ติดพนันออนไลน์ และต้องการหาเงินไปใช้หนี้ จึงวางแผนชิงทรัพย์และเปลี่ยนเสื้อผ้าตบตาตำรวจ จังหวะกำลังจะไปร้านทอง แต่เห็นผู้เสียหายใส่ทองรูปพรรณ ลงมือก่อเหตุน่าจะง่ายกว่า แต่มาพลาดตรงไม่ได้เตรียมรองเท้าไปเปลี่ยน ทำให้ตำรวจจับพิรุธจนได้ อย่างไรก็ตาม ทางตำรวจได้ตรวจสอบประวัติของ น.ส.ยุพา แล้วพบว่า เคยต้องคดีชิงทรัพย์เมื่อ 10 ปีที่แล้ว ส่วนสร้อยทองของกลางอยู่ระหว่างติดตามหา เนื่องจากผู้ต้องหาอ้างว่านำไปขายแล้ว




คุณอาจสนใจข่าวนี้

error: เนื้อหา และภาพข่าวมีลิขสิทธิ์ห้ามนำไปเผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญาติ