รมช.ศึกษา ประชุมแก้ปัญหาเยาวชนทะเลาะวิวาท จัดทำ”โครงการเยาวชนคนรุ่นใหม่ใจคุณธรรม” แก้ปัญหาครบวงจร
วันที่ 27 ตุลาคม 2566 ที่หอประชุมตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยานาย สุรศักดิ์ พันธุ์เจริญวรกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานการประชุมเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหา เหตุ นักเรียน นักศึกษาทะเลาะวิวาท โดยมี นาย นิวัฒน์ รุ่งสาคร ผวจ.พระนครศรีอยุธยา พลต.ต..ชยานนท์ มีสติ ผบก .ภจว.พระนครศรีอยุธยา นายประพัทธ์ รัตนอรุณ รักษาราชการแทนรองเลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา พล.ต.ต. ภูวดิท ชนะคชภัทร์ ผู้ทรงคุณวุฒิสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย ผู้อำนวยการสถานศึกษาและโรงเรียนในพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา และภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุม
โดยตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้รับมอบหมายจากจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ให้จัดประชุมแก้ไขปัญหานักเรียน/นักศึกษาทะเลาะวิวาท ในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อให้เกิดความร่วมมือกันปฏิบัติงานให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ โดยแนวทางเบื้องต้น แบ่งเป็น 2 ระยะ ได้แก่ ระยะเร่งด่วน จะเชิญผู้ปกครอง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มาร่วมประชุมแก้ไขปัญหาในสัปดาห์หน้า ในส่วนแก้ไขปัญหาระยะยาว ได้จัดทำโครงการขอรับการสนับสนุนงบประมาณจากองค์การบริหารส่วนจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อจัดอบรมนักเรียน/นักศึกษากลุ่มเสี่ยง และผู้ปกครอง รวมทั้งเครื่องมืออุปกรณ์ต่าง เพื่อแก้ปัญหาการทะเลาะวิวาทให้หมดไป
รมช.สุรศักดิ์ กล่าวว่า ขอขอบคุณทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่ให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหา การทะเลาะวิวาทในกลุ่มนักเรียน นักศึกษาในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งเยาวชนเหล่านี้ ถือเป็นลูกหลานของเรา ดังนั้นการมาร่วมกันวางมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาอย่างจริงจังและจริงใจ จึงถือว่ามีความสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะเด็กและเยาวชนทุกคนถือเป็นกำลังที่สำคัญที่จะมาช่วยกันพัฒนาจังหวัดและประเทศของเราในอนาคต อย่างไรก็ตามการเดินทางมาในครั้งนี้ มาทั้งในนามตัวแทนกระทรวงศึกษาธิการ ภายใต้การนำของ พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รมว.ศึกษาธิการ ที่มีความห่วงใยทุกคน และในฐานะส.ส.ซึ่งเป็นลูกหลานของชาว จ.พระนครศรีอยุธยา ที่มีความรักความห่วงใยนักเรียน นักศึกษาทุกคน
จากการที่รับฟังสถิติการเกิดเหตุทะเลาะวิวาทของกลุ่มเยาวชนพบว่าเริ่มมีความถี่และความรุนแรงมากขึ้นนอกจากนี้ยังพบว่าไม่ได้เฉพาะในกลุ่ม เยาวชนที่อยู่ในสถานศึกษาระดับอาชีวะเท่านั้นพบว่ายังมีกลุ่มเยาวชนที่เป็นกลุ่มนักเรียนมัธยมศึกษารวมไปถึงกลุ่มเยาวชนที่ไม่อยู่ในระบบของการศึกษา มาร่วมในการก่อเหตุด้วยจึงจึงต้องมีการระดมการแก้ปัญหาในทุกภาคส่วน
ในส่วนของจังหวัดพระนครศรีอยุธยาเคยประสบความสำเร็จในการแก้ปัญหาเยาวชนก่อเหตุทะเลาะวิวาทกันมาแล้วโดยการใช้โครงการเรียนช่างคนละที่แต่เลือดสีเดียวกันแต่โครงการดังกล่าวได้หยุดไปด้วยปัญหาเรื่องของงบประมาณและปัญหาการแพร่ระบาดของ โควิด-19 จึงทำให้ไม่ได้มีการจัดโครงการดังกล่าวขาดความต่อเนื่องในวันนี้ได้มีการพูดคุยกันหลายภาคส่วนจึงมีความเห็นได้จัดตั้งคณะกรรมการขึ้นมาเพื่อจัดทำโครงการ นี้ขึ้นมาใช้ใหม่ใหม่มีการปรับปรุง แก้ไข ของโครงการเดิมให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นไม่ได้มุ่งเน้นที่ตัวเยาวชนเพียงอย่างเดียวอาจจะแก้ปัญหาได้ไม่ถาวรต้องครอบคลุมไปถึงผู้ปกครองสถานศึกษาด้วย
“จากการหารือในวันนี้ที่ประชุมได้มีการตั้งคณะกรรมการ ซึ่งมาจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ในการร่วมกันขับเคลื่อน โครงการเยาวชนคนรุ่นใหม่ใจคุณธรรม ภายใต้ความร่วมมือระหว่างกระทรวงศึกษาธิการและองค์การบริหารส่วนจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ในการผลักดันให้สถานศึกษา ทั้งของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) และอาชีวศึกษา ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นสถานศึกษาที่ปลอดจากการทะเลาะวิวาท ซึ่งหากทำสำเร็จก็จะผลักดันให้จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นจังหวัดต้นแบบในการแก้ไขปัญหาการทะเลาะวิวาทในสถานศึกษาอย่างครบวงจรต่อไป” นาย สุรศักดิ์ กล่าว
สำหรับการจัดทำโครงการเรียนช่าง คนละที่แต่ เลือดสีเดียวกันเป็นโครงการที่เคยประสบความสำเร็จสามารถทำให้กลุ่มนักเรียนนักศึกษาที่ก่อเหตุทะเลาะวิวาทไม่ก่อเหตุทะเลาะวิวาทเป็นเพื่อนร่วมกันคอยช่วยเหลือช่วยเหลือซึ่งกันและกันโดยจะทำการนำตัวเด็กที่มีพฤติกรรมชอบทะเลาะวิวาทมาเข้าค่ายฝึกอบรมทำกิจกรรมร่วมกันประสบความสำเร็จมาแล้ว