ข่าวอยุธยา | khaoayutthaya.com | ข่าว | อยุธยา | พระนครศรีอยุธยา | ข่าวด่วน | ข่าวอุบัติเหตุอยุธยา | ข่าวอาชญากรรมอยุธยา | วัดป้อมแก้ว | หลวงพ่อเพิ่ม

สลด ชายพิการวัย 42 เครียดปัญหาหนี้สิน รมควันตัวเองเสียชีวิตในรถเก๋งกลางทุ่งนา

เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 5 ตุลาคม ร.ต.ต.วิมล สมบูรณ์ รอง สว. (สอบสวน) สภ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา รับแจ้งพบผู้เสียชีวิตอยู่ภายในรถเก๋ง จอดอยู่กลางทุ่งนา หมู่ 3 ต.เจ้าเสด็จ อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยแพทย์โรงพยาบาลเสนาประสานมูลนิธิพุทไธสวรรย์ ไปให้การสนับสนุน

บริเวณถนนกลางทุ่งนา พบรถเก๋งยี่ห้อซูซูกิ สีน้ำตาล จอดอยู่ ประตูรถปิดทั้ง 4 ด้าน ตรวจสอบภายในรถที่นั่งด้านคนขับ เบาะปรับเอนนอน พบผู้เสียชีวิตเป็นชาย นอนคว่ำหน้า สวมเสื้อยืดสีขาว กางเกงยีนส์ขายาว ไม่พบร่องรอยการต่อสู้หรือถูกทำร้าย เสียชีวิตมาแล้วประมาณ 6-7 ชั่วโมง
ตรวจสอบเอกสารในรถพบบัตรประชาชนใบขับขี่และบัตรผู้พิการด้านการเคลื่อนไหว ทราบชื่อ นาย เอ(นามสมมุติ) อายุ 42 ปี

บนพื้นรถด้านหน้าข้างคนขับ พบเตาอั้งโล่ ในเตามีถ่านที่จุดไฟมอดไปหมดแล้ว และยังพบถ่านจำนวน 2 ถุง วางอยู่ใกล้เตา บนเบาะซ้ายพบน้ำกระท่อมวางอยู่ 1 ขวด และขวดเปล่าน้ำกระท่อม ดื่มหมดไปแล้ว 2 ขวด ที่เบาะหลังพบตะกร้า มีขวดเบียร์อยู่จำนวนหนึ่ง เจ้าหน้าที่จึงถ่ายรูปไว้เป็นหลักฐาน ส่วนรถยนต์พบว่ามีการออกแบบติดตั้งระบบสำหรับผู้พิการขับขี่

ระหว่างเจ้าหน้าที่ชันสูตรพลิกศพ มีนาย บี(นามสมมุติ)อายุ 40 ปี เข้ามาที่เกิดเหตุพร้อมกับยืนยันว่าผู้เสียชีวิตเป็นญาติของตนเอง เป็นชาวอำเภอเสนา ได้ย้ายไปประกอบอาชีพอยู่ที่ จ.อุบลราชธานี หลายปีแล้ว รับจ้างช่างติดตั้งอุปกรณ์ไฟฟ้าและซ่อมรถยนต์ ผู้ตายเคยโทรมาหาปรึกษาเรื่องปัญหาหนี้สิน ก่อนเกิดเหตุผู้ตายได้บอกว่าจะกลับมาที่อยุธยาและได้ส่งข้อความเกี่ยวกับปัญหาหนี้สิน พูดเหมือนกับจะฆ่าตัวตาย จนเวลา 17.00 น. วันที่ 4 ตุลาคม ส่ง GPS มาบอกตำแหน่งให้ตนดูว่าอยู่ที่ไหน พยายามติดต่อแต่ไม่ได้ จึงได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบตามโลเกชั่นที่ส่งมา จนพบว่าเสียชีวิตแล้ว

ทางด้าน นายสุคนธ์ ชื่นใจธรรม เจ้าหน้าที่มูลนิธิพุทไธศวรรย์ บอกว่า ได้รับแจ้งจากประชาชนว่าพบเห็นรถเก๋งจอดอยู่และมีคนนอนอยู่ในรถ จึงได้เดินทางมาตรวจสอบ พบว่ามีชายนอนเสียชีวิตภายในรถโดยมีเตาอั้งโล่วางอยู่ที่พื้นจึงแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจรับทราบ

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ต้องทำการสอบสวนญาติของผู้ตายและผู้พบเห็นเหตุการณ์อย่างละเอียดอีกครั้ง เบื้องต้นนำศพส่งชันสูตรที่สถาบันนิติเวช กระทรวงยุติธรรม เพื่อหาสาเหตุการตายอย่างละเอียดอีกครั้ง




คุณอาจสนใจข่าวนี้

error: เนื้อหา และภาพข่าวมีลิขสิทธิ์ห้ามนำไปเผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญาติ