ข่าวอยุธยา | khaoayutthaya.com | ข่าว | อยุธยา | พระนครศรีอยุธยา | ข่าวด่วน | ข่าวอุบัติเหตุอยุธยา | ข่าวอาชญากรรมอยุธยา | วัดป้อมแก้ว | หลวงพ่อเพิ่ม

ผู้ใหญ่บ้านปืนลั่นใส่ขาขณะขับรถ พลเมืองดีขี่ จยย.นำทางไป รพ. ไปไม่ถึง พุ่งชนรั้ววิหารพระมงคลบพิตร

เมื่อเวลา 00.22 น. วันที่ 22 ธันวาคม ร.ต.อ.สามารถ รักษาศักดิ์ รอง สว.(สอบสวน) สภ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา ได้รับแจ้งอุบัติเหตุรถยนต์ชนรั้วประตูทางเข้าวิหารหลวงพระมงคลบพิตร ด้านถนนศรีสรรเพชญ์ อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา มีผู้ได้รับบาดเจ็บ ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมประสาน สมาคมอยุธยารวมใจ หน่วยกู้ภัยอยุธยา ไปให้การช่วยเหลือ

พบรถยนต์อเนกประสงค์ โตโยต้า สีดำ ชนกับรั้วราวเหล็กประตูทางเข้าวิหารพระมงคลบพิตร พังเสียหาย ตรวจสอบภายในรถบริเวณที่นั่งคนขับพบกองเลือดจำนวนมาก พบอาวุธปืนขนาด 11 มม. เสียบอยู่ตรงเบาะข้างคนขับ ปลอกกระสุนปืน 1 นัด ตกอยู่ที่เบาะข้างคนขับ พร้อมกับซองบรรจุกระสุนปืนอีก 12 นัด เจ้าหน้าที่จึงได้บันทึกภาพพร้อมเก็บอาวุธปืนไว้เป็นหลักฐาน

ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือนำส่งโรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา ทราบชื่อ นายสุรศักดิ์ อายุ 37 ปี เป็นผู้ใหญ่บ้าน ใน จ.อ่างทอง มีบาดแผล ถูกอาวุธปืนเข้าที่บริเวณน่องขาขวา 1 นัด ที่ฝ่ามือซ้ายมีบาดแผล

สอบถาม นายราเชนทร์ อายุ 24 ปี ขณะที่ตนเองนั่งอยู่หน้าบ้านตรงข้ามกับโรงเรียนอนุบาลพระนครศรีอยุธยา ได้มีรถยนต์ของผู้บาดเจ็บ เปิดกระจกร้องขอความช่วยเหลือให้ตนนำทางไปส่งโรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา โดยบอกว่าได้ทำปืนลั่นใส่ขาตัวเองได้รับบาดเจ็บ จึงรีบขี่รถจักรยานยนต์นำทางเพื่อพาไปส่งที่โรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา ระหว่างทางคนขับขับรถส่ายไปมา ไม่ยอมเปิดไฟหน้า ระหว่างทางเฉี่ยวชนกับฟุตบาตริมถนนตลอดทาง จนเสียหลักไปพุ่งชนเข้ากับรั้วราวเหล็กทางเข้าวิหารพระมงคลบพิตร ตนจึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่กู้ภัย มาให้การช่วยเหลือ

สอบถาม นายสุรศักดิ์ ผู้ได้รับบาดเจ็บ ในเบื้องต้นทราบว่า ขับรถยนต์มาทำธุระหาเพื่อนที่ตัวเมืองอยุธยาและกำลังจะกลับบ้านที่จังหวัดอ่างทอง ขณะขับรถมาปืนตกแล้วได้ลั่นใส่ขาตนเองจึงขับรถขอความช่วยเหลือพลเมืองดีให้นำไปส่งโรงพยาบาลแต่เจ็บขามาก จนรถเกิดเสียหลักพุ่งชนเข้ากับประตูของวัด ยืนยันว่าไม่มีใครยิงทำปืนลั่นเอง

ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำการสอบสวนผู้บาดเจ็บที่โรงพยาบาลอย่างละเอียดอีกครั้ง ในเบื้องต้นได้ใช้เครื่องตรวจวัดแอลกอฮอล์ถึง 3 ครั้ง แต่ผู้บาดเจ็บยังไม่สามารถเป่าได้ จึงต้องรอให้ทางเจ้าหน้าที่แพทย์ทำการรักษาก่อน ประสานแพทย์เพื่อเจาะเลือดตรวจหาแอลกอฮอล์ในเลือด ดำเนินการตามกระบวนการของกฎหมายต่อไป




คุณอาจสนใจข่าวนี้

error: เนื้อหา และภาพข่าวมีลิขสิทธิ์ห้ามนำไปเผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญาติ