ชาวสวนโป๊ยเซียน อยุธยา ระทม มวลน้ำไหลทะลักเข้าท่วมอย่างไว 1ชม.สูญ6แสน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา พบว่าเขื่อนเจ้าพระยา ลดการระบายน้ำลง แต่ยังคงมีการระบายน้ำลงสู่พื้นที่ท้ายเขื่อนอันตราที่สูง 2,602 ลบ.ม./วินาที ยังคงส่งผลทำให้ระดับน้ำเริ่มทรงตัวและท่วมสูงในหลายพื้นที่ ของ จ.พระนครศรีอยุธยา น้ำท่วมแล้ว รวม 15 อำเภอ 158 ตำบล 1,020 หมู่บ้าน 80,111 ครัวเรือน
ส่วนที่อำเภอผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา มีทั้งหมด16 ตำบล ถูกน้ำท่วมไปแล้ว 14 ตำบล 104 หมู่บ้านประชาชนได้ครับความเดือดร้อน 6,025 ครัวเรือน โดยพบว่าที่ ต.ลาดน้ำเต็ม ถูกมวลน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยา ที่ไหลบ่าแนวคั้นกั้นน้ำจากจ.อ่างทอง ไหลบ่าแผ่มาตามทุ่ง จนมาเข้าท่วมพื้นที่ของ ต.ลาดน้ำเค็ม ท่วมชุมชนบ้านเรือนประชาชนอย่างรวดเร็ว
ชาวบ้านในพื้นที่ต่างได้รับผลกระทบ อย่างเช่น นายคธาธร ผ่องญาติ อายุ 46 ปี ชาวบ้าน ม.3 ต.ลาดน้ำเค็ม องผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา ต้องลุยน้ำเร่งเก็บกระถางโป๊ยเซียน ในโรงเพราะชำที่ถูกน้ำท่วมสูงประมาณ 1.50 เมตร จนต้นที่เพาะพันธ์ุ และต้นที่พร้อมขายแล้วจมน้ำเสียหาย กว่า 30,000 ต้น เหลือที่เก็บได้ประมาณ 3,000-4,000 ต้น
นายคธาธร กล่าวว่า น้ำไหลบ่ามาจากทางทุ่งไผ่ดำ จ.อ่างทอง เข้ามาทางหลังหมู่บ้าน เพียงแค่ 1 ชั่วโมง ได้ทยอยเก็บของเก็บต้นโป๊ยเซียน และพยามทำแนวคันดินป้องกันพื้นที่เพราะต้นโป๊ยเซียนเยอะ แต่ไม่ทันน้ำมาเร็วมาก จนท่วมโรงเพาะชำ คิดเป็นมูลค่าความเสียหายประมาณ 600,000 บาท ทางสำนักงานเกษตรได้แนะนำว่าให้นับเป็นจำนวนต้นจากกระถางที่เหลือซากอยู่ และถ่ายภาพความเสียหายเป็นหลักฐาน แต่กระถางลอยไปกับน้ำหมด ไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไรต่อไป
ส่วนชาวบ้านในชุมชน ม.4 ต.บ้านแค อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา น้ำไหลเข้าท่วมภายในชุมชน ต้องขนย้ายรถยนต์ รถจักรยานยนต์มาจอดเอาไว้ด้านนอก ถนนในหมูบ้านระดับน้ำเพิ่มสูง ประมาณ 60 ซม. ชาวบ้าน ต้องเดินลุยน้ำ ใช้เรือ และโฟม พายเข้าออกชุมชน นาย สมชาย แย้มอุทัย อายุ 60 ปี ต้องเก็บ ของที่อยู่ใต้ถุนบ้านใส่เรือนำเก็บไว้ที่สูง น้ำท่วมใต้ถุนบ้านสูงประมาณ 60 ซม
นาย สมชาย แย้มอุทัย อายุ 60 ปี กล่าวว่า น้ำมาจาก จ.อ่างทอง ไหลลงทุ่งมายัง อ.ผักไห่ ที่แรกพยายามจะกั้นน้ำแต่น้ำเร็ว กั้นไม่ทันจนต้องปล่อยน้ำให้ท่วม แล้วมาเก็บของ หลายปีแล้วที่น้ำไม่เคยท่วมแบบนี้ ซึ่งเมื่อปีที่แล้ว น้ำก็ไม่ท่วม มาปีนี้แนวคันกั้นน้ำในจังหวัดอ่างทองพังหลายที่น้ำไหลผ่านทุ่งต่างๆมาจนมาท่วม
