คนร้ายอาศัยช่วงฝนตกย่องงัดโบสถ์ไม้ฉกพระพุทธรูปโบราณ 4 องค์
วันที่ 22 ส.ค.พระประกอบ ปัญญาทีโป อายุ 80 ปี ผู้ช่วยเจ้าอาวาส พร้อมด้วยนายเกษม บุญผาสุก อายุ 67 ปี มัคทายกวัดน้ำเต้า ต.น้ำเต้า อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา พาผู้สื่อข่าวเข้าตรวจสอบร่องรอยคนร้ายก่อเหตุงัดโบสถ์ไม้โบราณเข้าไปโจรกรรมพระพุทธรูปโบราณภายในโบสถ์หายไป จำนวน 4 องค์
พบว่าที่โบสถ์ไม้คนร้ายได้ตัดกุญแจโบสถ์จำนวน 2 ตัวที่พื้นโบสถ์พบรอยเท้าเปล่า และรอยเท้าสวมรองเท้าเลอะคราบโคลนเดินเข้าไปจนถึงหน้าองค์พระประธาน คนร้ายได้ใช้คีมตัดเหล็กตัดโครงสแตนเลส ที่ครอบพระพุทธรูป ปางมารวิชัย หน้าตักประมาณ5นิ้ว 3 องค์ พระพุทธชินราช หน้าตักประมาณ 7 นิ้ว จำนวน 1 องค์ มีคราบฝุ่นของฐานพระอยู่
พระประกอบ ปัญญาทีโป อายุ 80 ปี ผู้ช่วยเจ้าอาวาส กล่าวว่าพระพุทธรูปที่หายไปอยู่คู่กับวัดมาเก็บรักษาเอาไว้ในโบสถ์ไม้โบราณ สมัยกรุงศรีอยุธยาทางผู้ใหญ่บ้านและชาวบ้านได้ช่วยกันสร้างกรงเหล็กทำด้วยสแตนเลสครอบเอาไว้คนร้ายน่าจะเข้ามาก่อเหตุในช่วงกลางคืนวันเสาร์ที่ 18 ส.ค. เป็นวันที่ฝนตกหนัก อยากได้พระพุทธรูปคืนเพราะเป็นพระพุทธรูปที่อยู่คู่กับวัดมา
นายเกษม บุญผาสุกอายุ 67 ปี มัคทายก โบสถ์ไม้ของวัดสร้างในสมัยกรุงศรีอยุธยา ต่อมามีการซ่อมแซมหลังคาโบสถ์ ช่างไปพบพระพุทธรูปปางมารวิชัย อยู่ติดกับช่อฟ้า ด้านหน้าและหลังโบสถ์ จึงได้นำลงมาพระพุทธรูปมีลักษณะพิเศษคือจะมีห่วงอยู่ที่ด้านหลังองค์พระเชื่อว่าน่าจะเป็นการทำไว้เพื่อชักพระขึ้นไปประดิษฐานไว้ที่บริเวณช่อฟ้าจากนั้นได้มีการปิดทองที่องค์พระ และนำพระพุทธรูปมาตั้งไว้รวมกันสร้างกรงแบบสแตนเลส มาครอบรอบเอาไว้ คนร้ายอาศัยช่วงที่ฝนตกหนักตั้งแต่ช่วงเย็นจนถึงกลางดึก เข้ามาก่อเหตุเพราะพระที่วัดมีจำพรรษาอยู่เพียง 6 รูปเท่านั้นพอช่วงเช้าเข้าทำวัตรจึงพบว่าโบสถ์ถูกงัดและพระพุทธรูปโบราณหายไป ได้เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พระขาว อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อให้ช่วยติดตามแล้ว