ปฎิบัติการลากเรือยนต์ลากจูงจมกลางแม่น้ำป่าสักเข้าฝั่งสำเร็จเตรียมกู้เรือ
จากกรณีเกิดเหตุเรือยนต์ลากจูง เรือบรรทุกสินค้า ล่มจมหายไปกลางแม่น้ำป่าสัก บริเวณสามแยกวิทยาลัยเทคโนโลยีและอุตสาหกรรมการต่อเรือพระนครศรีอยุธยา ต.หัวรอ อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา โดยคนขับเรือ พร้อมกับภรรยา มีชาวบ้านช่วยเหลือออกมาได้ ปลอดภัยทั้งคู่ เมื่อช่วงเที่ยง วันที่ 11 กันยายน ผ่านมา
ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อ 15.00 น . วันที่ 11 กันยายน เจ้าหน้าที่สมาคมอยุธยารวมใจหน่วยกู้ภัยอยุธยา พร้อมด้วย นักประดาน้ำ ดำน้ำลงที่ความลึกประมาณ 15 เมตร ไปผูก เชือก เข้ากับเรือที่ล่มกลางแม่น้ำป่าสัก เพื่อให้เรือยนต์ ช่วยกันลากเรือที่จมน้ำอยู่หลบเข้าริมแม่น้ำป่าสัก เพื่อ เปิดทางให้เรือที่บรรทุกสินค้ามาได้ผ่านน่านน้ำ บริเวณที่เกิดเหตุได้ และเพื่อความสะดวกในการกู้เรือ
จากการดำน้ำลงไปของนักประดาน้ำพบว่า หัวเรือได้หันไปทางทิศเหนือ ลักษณะเอียง 45 องศา อยู่ใต้น้ำลึกประมาณ 15 เมตร โดยขณะที่มีการผูกเชือกติดเรือลากจูงนั้น เจ้าของเรือได้ ทำพิธีจุดธูปไหว้ขอขมา สิ่งศักดิ์สิทธิ์และ เจ้าแม่คงคาเพื่อขอให้กู้เรือ ที่ล่มได้สำเร็จ
นาย สุรชัช สดใส 45 ปี คนขับเรือ เล่าว่าตนเองเป็นเรือกระเตงเรืออยู่ข้างซ้ายโดยมีเรือยนต์ลากจูงมาทั้งหมด 5 ลำ ทั้งลากจูง และประครองเรือให้ผ่าน ช่วงทางโค้ง แม่น้ำ ซึ่งมีกระแสน้ำไหลแรง ตนเองจึงพยายามดึงเรือลากจูงเพื่อไม่ให้หลุดโค้ง แต่ตอนนั้นน้ำไหลแรงมากทำให้เรือเสียการทรงตัวและเชือกที่ผูกติดกับเรือก็ตึงทำให้เรือ เอียง มีน้ำไหลเข้ามาในเรือตนเองก็พยายามจะถอยหลังเรือแต่เชือกก็ตึงอยู่ตลอด จึงให้คนบนเรือบรรทุกสินค้า ตัดเชือกออก แต่ไม่ทัน เรือยนต์ของตน จึงค่อยๆจมลงตนยังอยู่ในห้องขับเรือข้าวของ เครื่องใช้ เริ่มจะไหลมาทับตนเองก็ผลักเปิดประตูออกมาแล้วรีบขึ้น อยู่บนท้ายเรือ โดยภรรยา ของตนเองมีเรือรับจ้างมาช่วยเหลือส่วนตนเองก็ใส่ชูชีพอยู่แล้วจึงออกมาได้อย่างปลอดภัย
นางสาว วิภา นวลละออ อายุ 41ปี ภรรยา ทำหน้าที่อยู่บนเรือเผยว่า ขณะกำลังกำลังประครองเรือบรรทุกสินค้าให้ผ่านช่วงโค้งของแม่น้ำให้มาทางด้านซ้าย เพื่อไม่ให้ไปชนกับเขื่อนที่กำลังก่อสร้างแต่จังหวะนั้นน้ำไหลแรงทำให้น้ำเริ่มเข้ามาบนเรือตนเองก็พยายามจะนำมีดไปตัดเชือกที่เรือแต่ไม่สำเร็จน้ำเริ่มเข้าเรือจนจึงตั้งสติแล้วรีบออกมาอยู่บนท้ายเรือ ซึ่งเรือเริ่มตะแคงพลิกคว่ำจากนั้นก็มีคนขับเรือหางยาวมาช่วยได้ทันจึงรอดปลอดภัย
นายพีรธร นาคสุข ผอ.สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาพระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า จากการตรวจเรือยนต์ลากจูงที่จม ชื่อแสงเทียนลากจูง 14 โดยลักษณะเป็นเรือเทียบข้างเรือบรรทุกสินค้า เพื่อคอยประคองเรือบรรทุกสินค้าจะมีทั้งด้านซ้ายด้านขวา ซึ่งในช่วงน้ำหลาก เรือบรรทุกสินค้าจะต้องใช้เรือเทียบข้างช่วยในการเดินเรือ ตอนนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบสาเหตุของการเกิดเรือล่มในครั้งนี้
โดยทางเจ้าท่ากำชับเจ้าหน้าที่ให้ปฏิบัติหน้าที่รับแจ้งเหตุเกี่ยวกับอุบัติเหตุทางน้ำ พร้อมประสานไปยังหน่วยงานต่างๆ ให้รับทราบ อีกทั้งแจ้งชุดปฏิบัติการตรวจตรา นำเรือยนต์ออกปฏิบัติงาน ช่วยเหลือ คอยควบคุมการจราจรทางน้ำให้เป็นไปตามกฎหมาย และคอยช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ประสบอุทกภัยควบคู่กันไปอีกด้วย เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนและผู้เดินเรือ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ล่าสุดเมื่อเวลา 18.00 น. นักประดาน้ำของสมาคมอยุธยารวมใจ หน่วยกู้ภัยอยุธยา ได้ ผูกเชือก ที่เรือยนต์ลากจูงที่จมกลางแม่น้ำป่าสักได้สำเร็จ จากนั้นใช้เรือยนต์ลากจูง จำนวน 4 ลำ ได้เร่งเครื่องเรือทั้ง 4 ลำเต็มกำลัง ดึงเรือลากที่จมอยู่ ค่อยๆเคลื่อนที่ เข้าริมฝั่งแม่น้ำ ได้จนสำเร็จ เพื่อให้พ้นเส้นทางการเดินเรือ และเพื่อความสะดวกในการกู้เรือ ในจุดที่เรืออยู่ลึกในแม่น้ำน้อยที่สุด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าขณะที่ทำการกู้เรือนั้นได้มีประชาชนที่ทราบข่าวได้เดินทางมาดูกันเป็นจำนวนมาก
