ศึกโรงน้ำแข็งดวลเดือด ขับรถไล่ล่ารัวยิงถล่มกลางเมืองอยุธยา
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 8 ส.ค. พ.ต.อ.ประเวศ ศรีนาค ผกก.สภ.พระนครศรีอยุธยา นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าควบคุม เหตุทะเลาะวิวาท ใช้อาวุธปืนยิงถล่มกัน บนถนนวัดใหญ่ชัยมงคล-วัดพนัญเชิง ใกล้จุดปิดกั้นรถไฟ ต.คลองสวนพลู อ.พระนครศรีอยุธยา ตำรวจกระจายกำลังปิดกั้นถนนสกัดจับกุมผู้ต้องหาเป็นชายวัยรุ่นได้ 4 คน พร้อมรถกระบะ โตโยต้า สีดำ ทะเบียนป้ายแดง ก 9037 นครราชสีมา ตรวจค้นในรถพบอาวุธปืน ขนาด 9 มม. 2 กระบอก ขนาด.38 จำนวน 2 กระบอก เป็นกลุ่มของโรงน้ำแข็งพันล้าน พระนครศรีอยุธยา อ.อุทัย ส่วนที่กลางถนน พบรถกระบะ โตโยต้าสีขาวตอนเดียว ทะเบียน บว 8200 พระนครศรีอยุธยา ของกลุ่มโรงน้ำแข็งอโยธยา สภาพด้านหน้าถูกชนพังเสียหาย ฝากระโปรงรถมีรอยถูกยิงด้วยอาวุธปืน บนถนนพบปลอกกระสุนปืนขนาดต่างๆ จำนวนมาก
ด้าน นายไชยณรงณ์ จันทร์สีดา กำนันตำบลเกาะเรียน อ.พระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า ได้รับแจ้งจากชาวบ้าน มีกลุ่มรถส่งน้ำแข็งของโรงน้ำแข็งอโยธยา ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ ต.เกาะเรียน มีเรื่องทะเลาะวิวาทกันกับทาง โรงน้ำแข็ง พันล้าน พระนครศรีอยุธยา ตั้งอยู่ อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา โดยเหตุเกิดที่ริมถนนอยุธยา-บางปะอิน สายใน จึงรีบประสานไปยังตำรวจ พร้อมกับนำกำลังผู้ใหญ่บ้าน ไปควบคุมสถานการณ์ ต่อมากลุ่มรถน้ำแข็งทั้ง 2 โรง ขับรถไล่ล่ากันจนเกิดการเฉี่ยวชน ในที่สุดเปิดฉากยิงกันขึ้น มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 ราย ถูกส่งโรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา โดยกลุ่ม 2 โรงน้ำแข็ง เคยมีเรื่องทะเลาะวิวาทกันมาก่อนหลายครั้ง
ผู้บาดเจ็บ 2 ราย คือนาย สหชาติ อายุ 34 ปี อยู่ใน รถยนต์อเนกประสงค์ ยี่ห้อฮัมเมอร์ สีแดง และนายวินัย อายุ 33 ปี ผู้ขับขี่รถยนต์กระบะ ยี่ห้อโตโยต้า สีขาว รถน้ำแข็งโรงน้ำแข็งอโยธยา ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย
ตำรวจตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด พบว่ารถปิกอัพของโรงน้ำแข็งอโยธยา ได้ขับเลี้ยวออกมาจากซอย เพื่อสกัดรถยนต์แฮมเมอร์ สีแดง กลุ่มของโรงน้ำแข็งพันล้านพระนครศรีอยุธยา จนเกิดการชนกัน แล้วต่างฝ่ายใช้อาวุธปืนยิงใส่กันก่อนจะแยกกันหลบหนี และมีรถยนต์ตู้ของกำนันตำบลเกาะเรียน เข้ามาควบคุมเหตุการณ์ ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะมาถึง
สอบสวน นายยา อายุ 30 ปี คนขับรถส่งน้ำแข็ง ของโรงงน้ำแข็งพันล้าน ให้การอ้างว่า ช่วงเช้าไปส่งน้ำแข็ง แล้วถูกกลุ่มของโรงน้ำแข็งอโยธยา กว่า 10 คัน ปิดล้อมรถเองตนเองไว้ จึงรีบโทรฯ ไปแจ้งกับทางโรงน้ำแข็งพันล้านพร้อมกับแจ้งตำรวจ ต่อมาเกิดการทะเลาะวิวาท ขับรถชนกัน เปิดฉากสาดกระสุนใส่กัน ก่อนหน้านี้ตนเองพร้อมกับเพื่อน เคยถูกทำร้ายร่างกายมาแล้ว
ด้าน พล.ต ต.พัลลภ แอร่มหล้า ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างสอบปากคำผู้ที่เกี่ยวข้องผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ทั้งหมด หาการสอบสวนมีพยานหลักฐาน มีพยานบุคคล มีพยานวัตถุ ที่ระบุว่าผู้ใดกระทำความผิดอะไรได้บ้างเช่น การครอบครองอาวุธปืน การใช้อาวุธปืน จะดำเนินคดีทันที ไม่มีการละเว้นหรือช่วยเหลือกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ซึ่งการก่อเหตุในครั้งนี้เกิดจากความขัดแย้งในการทางธุรกิจส่งน้ำแข็งอาจจะทับเส้นทางกัน ที่ผ่านมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการระดมกวาดล้างจับกุมอาวุธปืนไปแล้วในพื้นที่ ส่วนอาวุธปืนที่มีการนำมาก่อเหตุอาจจะเป็นอาวุธปืนที่มีการขออนุญาตไว้ใช้สำหรับในการป้องกันตัวป้องกันทรัพย์สิน และนำมาใช้ในการก่อเหตุทะเลาะวิวาทกัน