ยุติการกู้เรือ-เปิดน่านน้ำ หลังพบศพคนขับเรือ ค้นในเรือแล้วไม่พบภรรยา
หลังจากนักประดาน้ำ จากหน่วยปฏิบัติการพิเศษใต้น้ำ กองทัพเรือ นักประดาน้ำ สมาคมอยุธยารวมใจ เจ้าหน้าที่กรมเจ้าท่า กลุ่มผู้ประกอบการเรือยนต์ลากจูง ปฏิบัติการดำน้ำลงกว่า 20 เมตร เพื่อทำการผูกเชือก ที่เรือยนต์ลากจูง ที่จมน้ำอยู่กลางสามแยกแม่น้ำเจ้าพระยา-ป่าสัก บริเวณท่าน้ำวัดพนัญเชิงวรวิหาร จ.พระนครศรีอยุธยา
จนสามารถผูกเชือกได้ครบ 5 เส้น เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา พร้อมกับใช้เรือยนต์ลากจูง จำนวน 7 ลำ ลากจูงเรือที่จมอยู่ใต้น้ำจนสารถเคลื่อนที่มาได้ประมาณ 10 เมตร จากนั้นเชือกได้ขาด 1 เส้น จนต้องหยุดภารกิจ แล้วดำเนินการใช้นักประดาน้ำลงไปงมค้นหาภายในเรือ ไม่สามารถเข้าไปภายในห้องโดยสารได้ เนื่องจากมีข้าวของเครื่องใช้ภายในรถมากีดขวางจนต้องหยุดปฏิบัติการไว้เมื่อกลางดึกวันที่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมา
ความคืบหน้าปฏิบัติการกู้ซากเรือ ค้นหาร่างนายสมชาย ธารกุล คนขับเรือ และ นางนฤมล จันทรโชติ ภรรยา
วันนี้ (2 ตุลาคม) ที่ท่าน้ำหน้าวัดพนัญเชิงวรวิหาร จ.พระนครศรีอยุธยา นายภูริพัฒน์ ธีระกุลพิศุทธิ์ รองอธิบดีกรมเจ้าท่า ด้านความปลอดภัย นาวาโทรัชตะ ผกาฟุ้ง ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาอยุธยา นายนาวิล คงดี นายกสมาคมอยุธยารวมใจ ร่วมกันประชุมวางแผน การปฏิบัติการ โดยการนำโมเดลของเรือยนต์ลากจูงที่จมน้ำ มาประเมินสถานการณ์ในการกู้ซากเรือ หลังจากที่มีการพบศพ นายสมชาย ธารกุล คนขับเรือ ลอยอยู่ที่ท่าน้ำศิริราช พื้นที่ กรุงเทพมหานคร
จากนั้นได้จัดกำลังนักประดาน้ำจำนวน 3 นาย ลงไปทำการตัดเชือก ให้เหลือเพียง 1 เส้นเพื่อเตรียมสัญลักษณ์ทุ่นเตือนภัยให้เห็นจุดที่เรือจม พร้อมกับการลงไปสำรวจหาร่างของผู้สูญหายอย่างละเอียดครั้ง ใช้เวลาประมาณ 30 นาที สามารถดำเนินการเสร็จสิ้นไม่พบผู้สูญหายภายในเรือ
พร้อมกับกรมเจ้าท่าได้ใช้เครื่องสแกนภาพใต้น้ำเพื่อค้นหาตำแหน่งของเรือ ยืนยันอีกครั้งพบว่าเรือจอดในลักษณะหัวเรือมุ่งหน้าทางแม่น้ำป่าสักลักษณะตะแคง
นายภูริพัฒน์ ธีระกุลพิศุทธิ์ รองอธิบดีกรมเจ้าท่า ด้านความปลอดภัย ได้ทำบันทึกข้อตกลงกับ นายนพดล แซ่ด่าน ผู้จัดการฝ่ายปฏิบัติการ ขอบริษัท ซีทีไอ ทรานสปอร์ต ในการยุติการค้นหาผู้สูญหาย และกู้ซากเรือ ซีทีไอ77
รองอธิบดีกรมเจ้าท่า กล่าวว่า ได้ร่วมกันประเมินสถานการณ์แล้วจากทุกฝ่าย หลังจากมีการพบร่างของคนขับเรือ วันนี้และนักประดาน้ำได้ทำการลงงมสำรวจภายในเรืออย่างละเอียด ไม่พบร่างผู้สูญหาย ซึ่งเป็นภรรยาในเรือ การกู้ซากเรือในขณะนี้ด้วยกระแสน้ำที่ไหลแรง การจะลงไปติดตั้งอุปกรณ์กู้ซากเรือทำด้วยความยากลำบากและเสี่ยงต่อการที่จะเกิดอันตราย จึงได้สั่งยุติการกู้เรือไว้รอจนกว่าระดับน้ำจะกลับสู่สภาวะปกติ จึงจำดำเนินการต่อ
ส่วนเรือจากการประเมินตรวจสอบเรื่องของความปลอดภัยในจุดที่จม เรืออยู่ลักษณะของการตะแคงข้าง ที่บริเวณสามแยกแม่น้ำเป็นลักษณะของสะดือที่ความลึกกว่า 20 เมตร เรือยนต์ลากจูง เรือบรรทุกสินค้า สามารรถเดินเรือสัญจรผ่านได้ เรือกินน้ำลึกไม่ถึงจุดที่เรือจม ซึ่งจะทำการติดตั้งทุ่นสัญญาณแจ้งเตือนไว้ และเนื่องจากกระแสน้ำที่ไหลแรง ทางกรมเจ้าท่าจะสั่งลดการลากจูงเรือบรรทุกสินค้าจาก 4 ลำเหลือเพียง 3 ลำ จัดกำลังเจ้าหน้าที่คอยดูเรื่องของความปลอดภัย