หนุ่มโชเฟอร์รถตู้นำเที่ยวกลัวแฟนตีตัวออกห่างใช้อาวุธปืนยิงแฟนสาวก่อนยิงตัวเองเสียชีวิตทั้งคู่
เมื่อเวลา 18.30 น.วันที่ 20 พฤษภาคม พ.ต.ท ปริญญา กุลรัตน์ สว(สอบสวน) สภ. พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา ได้รับแจ้ง มีเหตุผู้ใช้อาวุธปืนยิงมีผู้เสียชีวิต 2 ราย ภายในห้องเช่าแห่งหนึ่ง ต.หอรัตนไชย อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมพร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน แพทย์เวรโรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักพระนครศรีอยุธยา มูลนิธิร่วมกตัญญูอยุธยา
ภายในห้องเช่าห้องเลขที่ 1พบว่าประตูห้องถูกล็อคจากด้านใน เจ้าของห้องพักจึงได้ใช้กุญแจไขเปิดเข้าไป บนที่นอนพบศพนางสาวโรจนี สืบพงษ์เดช อายุ 47 ปี มีบาดแผลถูกยิงด้วยปืนที่ศีรษะห่มผ้าห่มอยู่ มีร่างของ นายวรพงษ์ จันทร์แจ่มใสอายุ 51ปี นอนทับอยู มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนที่ศีรษะ ในมือขวา กำอาวุธปืนแบบไทยประดิษฐ์ ขนาด .38 พบปลอกกระสุนปืน 1ปลอก และในรังเพลิง1ปลอก ที่พื้นห้องเลือดไหลนองสภาพแห้ง ผู้เสียชีวิตน่าจะเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 2-3 วันภายในห้องยังเปิดแอร์อยู่ ตรวจสอบในห้องไม่พบร่องรอยการต่อสู้หรือรื้อค้น
สอบถามน.ส.รุ่งตะวัน เจริญสุข 43ปี เพื่อนของ น.ส.โรจนี ผู้เสียชีวิต ทราบว่าผู้เสียชีวิตทำงานเป็น หมอนวดแผนโบราณ อยู่ร้านนวดผ่อนคลาย ริมถนนโรจนะ ใกล้กับเจดีย์วัดสามปลื้ม อ.พระนครศรีอยุธยา ทราบว่าเพื่อนไม่ไปทำงานตั้งแต่วันอังคาร ตนเองพยายามติดต่อหลายครั้งทั้งโทรศัพท์และ ไลน์ ไม่มีการตอบรับ ด้วยความเป็นห่วงจึงมาดูที่ห้องพักเพราะว่าห้องเปิดแอร์ แล้วประตูล็อคอยู่ จึงได้ประสานกับทางเจ้าขอห้องพัก ให้มาเปิดประตู ถึงพบว่าผู้เสียชีวิตถูกยิงพร้อมกับแฟนหนุ่มซึ่งมีอาชีพขับรถตู้นำเที่ยว ก่อนหน้านี้ผู้เสียชีวิตเคยบ่นว่าอยากเลิกกับแฟนแต่ไม่ยอมเลิก ประกอบกับนางสาว โรจนี เป็นคนหน้าตาดี มีคนมาชอบหลายคน และแฟนหนุ่มเป็นคนขี้หึง
พ.ต.อ.เอกราช อุ่นเจริญ รอง ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า จากการสอบสวนใกล้ชิดกับฝ่ายหญิง และพยานบุคคล ทราบว่าผู้เสียชีวิตทั้ง 2 ราย อยู่กินด้วยกันแบบสามีภรรยา ฝ่ายชายนานๆจะมาหาฝ่ายหญิง ก่อนเกิดเหตุ ฝ่ายชาย น่าจะมาหาฝ่ายหญิงแล้วมีการพูดคุยกันในเรื่องของความสัมพันธ์ แล้วเกิดมีปากเสียงกัน ฝ่ายชายจึงตัดสินใจใช้อาวุธปืนยิงฝ่ายหญิงเสียชีวิต ก่อนจากนั้นใช้อาวุธปืนกระบอกเดียวกันยิงตัวเองเสียชีวิต ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำการสอบสวนพยานและตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณโดยรอบที่เกิดเหตุ และเก็บเขม่าดินปืน และหลักฐานนิติวิทยาศาสตร์ มาประกอบสำนวนคดีอีกครั้ง