เปิดใจผู้ใหญ่บ้านจับสองหนุ่มพ่อค้าในตลาดไม่สวมแมสก์ทั้งที่เป็นลูกชายตัวเอง
จากกรณีที่ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 1 ต.บางนางร้า อ.บางปะหัน จ.พระนครศรีอยุธยา ได้จับกุมชาย 2 คน ไม่สวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า ที่บริเวณตลาดสดบางปะหัน ต.บางนางร้า อ.บางปะหัน จ.พระนครศรีอยุธยา นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.บางปะหัน เปรียบเทียบปรับ500 บาท ตามความผิด ข้อหา ขัดคำสั่ง เจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ที่ 1779/2563 ลงวันที่ 6 มิถุนายน 2563 ประกอบมาตรา 51 แห่ง พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ. 2558 สั่งให้ประชาชนทุกคนในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ต้องสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าทุกครั้งก่อนออกจากเคหสถาน หรือขณะอยู่นอกเคหะสถาน หรือต้องติดต่อกับบุคคลอื่นหรือเดินทางไปในสถานที่สาธารณะหรือสถานที่ใดๆ ที่ต้องติดต่อกับบุคคลอื่นต้องสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าด้วยทุกครั้ง
ความคืบหน้าล่าสุดวันที่ 26 เมษายน ที่สภ.บางปะหัน จ.พระนครศรีอยุธยา นางสาววลีรัตน์ ประสงค์เงิน ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 1 ต.บางนางร้า อ.บางปะหัน ได้พาตัว ลูกชายทั้ง 2 คน เข้าพบกับ พ.ต.ท.สมนึก ประจิตร์ รองผกก.สอบสวน สภ.บางปะหัน เพื่อสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน ส่งตัวฟ้องศาลแขวงจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เนื่องจากอัตราโทษปรับในความผิด จำนวน20,000 บาท เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่สามารถเปรียบเทียบปรับได้ ซึ่งทางผบช.ค 1 ได้สั่งยกเลิกการปรับแล้ว เนื่อง อัตราโทษปรับต้องปรับในอัตรา6,000 บาท ซึ่งทางผู้เสียหายร้องขอให้ส่งตัวไปศาลแขวงจังหวัดพระนครศรีอยุธยา หวังว่าศาลอาจจะพิจารณาปรับในราคาที่ต่ำกว่า
นางสาววลีรัตน์ ประสงค์เงิน ผู้ใหญ่บ้าน กล่าวว่า ช่วงบ่ายวันที่ 25 เมษายน ตนเองได้รับการร้องเรียนจาก นายอำเภอ และชาวบ้านชาวบ้านว่า พบเห็นพ่อค้าในตลาดสดบางปะหันขายของไม่สวมแมสก์ จึงได้ไปตรวจสอบ พบว่าว่าเป็นลูกชายของตนเองซึ่งเป็นพ่อค้าขายกะทิสด นั่งคุยกันอยู่ มีแมสก์สวมไว้ที่ใต้คาง จึงได้จับกุมตัว ทั้งที่เป็นลูกชายของตนเองเพราะถือว่ากระทำความผิด ซึ่งได้สอบถามลูกชายแล้วบอกว่า เห็นว่าไม่มีลูกค้าและคนเดินในตลาด เป็นจังหวะที่เพิ่งจะรับประทานอาหาร จากนั้นได้รายงานต่อนายอำเภอนำตัวมาเปรียบปรับ ที่ สภ.บางปะหัน ตนเองทำหน้าที่ผู้ใหญ่บ้านช่วยเหลือประชาชนและในช่วงการแพร่ระบาดไวรัสโควิด19 ต้องทำหน้าที่ ดุแล ช่วยเหลือประชาชน พร้อมกับการบังคับใช้กฎหมายในการควบคุมโรคติดต่อ ตามคำสั่งของนายอำเภอ ทางจังหวัด ทางราชการอย่างเคร่งครัด
ด้าน ร้อยตำรวจตรีหญิง สายสุนี ยมานันท์ นายอำเภอบางปะหัน กล่าวว่า เรื่องของการจับกุมเป็นการจับกุมผู้กระทำความผิดในตลาดสดบางปะหัน ไม่ใช่การจับกุมในรถยนต์ ตามที่มีการแชร์ข่าวสารไป เรื่องนี้ มีการร้องเรียนผ่านช่องทางเพจเฟสบุ๊คเรารักษ์บางปะหัน พบเห็นพ่อค้าในตลาดไม่สวมแมสก์ จึงได้ประสานผู้ใหญ่บ้าน ให้ไปตรวจสอบ ซึ่งรับผิดชอบในการดูแลตลาดอยู่ หลังจับกุมได้รายงานมาให้ตนทราบทันที ทั้งที่เป็นลูกชายของผู้ใหญ่บ้านเอง ต้องขอชื่นชมเป็นอย่างมาก และให้กำลังใจผู้ใหญ่บ้านด้วย ซึ่งเป็นคนที่ตั้งใจทำงานมาโดยตลอดโดยเฉพาะในช่วงของการแรพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด19 เรื่องการสวมใส่แมสก์เป็นมาตรการสำคัญในการควบคุมป้องกันเชื้อไวรัสโควิด19
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังการสอบสวน พ่อค้าขายกะทิสดทั้ง2 ราย ให้การรับสารภาพ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัว เจ้าหน้าที่ตำรวจได้คุมตัว พร้อมพยานหลักฐานสำนวน ไปส่งให้อัยการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ตรวจสำนวน ในข้อหาขัดคำสั่งเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ ประกอบมาตรา 51 แห่ง พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ. 2558สั่งให้ประชาชนทุกคนในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ต้องสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าทุกครั้งก่อนออกจากเคหสถาน หรือขณะอยู่นอกเคหะสถาน หรือต้องติดต่อกับบุคคลอื่นหรือเดินทางไปในสถานที่สาธารณะหรือสถานที่ใดๆ ที่ต้องติดต่อกับบุคคลอื่นต้องสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าด้วยทุกครั้ง
โดยจะมีการนำตัวส่งศาลแขวงจังหวัดพระนครศรีอยุธยาเพื่อเปรียบเทียบปรับ ในวันที่ 27 เมษายน 2564