ชาวบ้านได้ยินเสียงทารกร้องออกมาจากป่าติดกับหมู่บ้านหน่วยกู้ภัยอยุธยาระดมค้นหาทั้งคืนไม่พบ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 23 กุมภาพันธ์ ศูนย์วิทุยสมาคมอยุธยารวมใจ ได้รับแจ้งจากชาวบ้านได้ยินเสียงร้องเด็กทารก ออกมาจากป่ากก ติดกับหมู่บ้านจัดสรรแห่งหนึ่ง ติดกับถนนสายเอเชีย ม.5 ต.บ้านกรด อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วยอุปกรณ์ส่องแสงสว่าง
พบว่าบริเวณจุดที่มีการได้ยินเสียงร้องของเด็กทารกเป็นลานดินติดกับป่าต้นกก สูงกว่า 5 เมตร พื้นที่กว้าง มีชาวบ้านจำนวนมากมุ่งดูเหตุการณ์พร้อมกับใช้ไฟฉายส่องหาในป่ากก
นาย พรชัย ศุภกิจดำรง อายุ 35 ปี เจ้าของร้านขายของชำ ภายในหมู่บ้าน ชาวบ้าน เปิดคลิปเสียงที่ถ่ายไว้พร้อมกับ เล่าให้ฟังว่า ที่ได้ยินเสียงทารกร้อง เปิดเผยว่า ช่วงเวลาประมาณ14.00 น.ตนเองเดินมาขยับรถที่จอดเอาไว้ใต้ต้นไม้เพื่อไปรับลูกที่โรงเรียน ได้ยินเสียงคล้ายเด็กทากรกร้องออกมาจากป่ากก ที่แรกไม่มั่นใจว่าเป็นเสียงอะไร จึงลองขว้างก้อนหินไป3 ครั้ง หากเป็นเสียงสัตว์ ต้องมีการเคลื่อนไหว จึงต้องใจฟังเสียงใหม่อีกครั้งพร้อมกับถ่ายคลิปเอาไว้ด้วย ยังได้ยินเสียงอย่างชัดเจน จากนั้นได้เดินทางไปรับลูกที่โรงเรียน และกลับมาที่บ้านพักด้วยความสงสัยว่าเป็นเสียงทารกร้องหรือว่าเสียงร้องของสัตว์จึงโพสคลิปลงไปตามสื่อโซเชียล มีหลายคนแสดงความตฃคิดเห็นว่าเป็นเสียงทารก จึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่กู้ภัย ช่วยกันค้นหา
หลังเจ้าหน้าที่ สมาคมอยุธยารวมใจ รับทราบข้อมูล ได้ระดมกำลังกันค้นหา เดินทางถางป่ากกเข้าเครียร์พื้นที่ เป็นไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากป่าต้นกกรกทึบและมีน้ำท่วมขัง ใช้เวลานานกว่า 2 ชั่วโมงยังไม่พบ จากนั้นได้ให้ประชาชนที่มุ่งดูและดับเครื่องปั่นไฟเพื่อฟังเสียงอีกครั้งปรากฏว่าได้ยินเสียงดังออกมาจากป่ากกอีกครั้ง จึงได้ระดมการค้นหา ใช้เวลานานกว่า 4 ชั่วโมง แต่ไม่พบ
เจ้าหน้าที่การประปาส่วนภูมิภาค พระนครศรีอยุธยา ได้ตรวจสอบพื้นที่จากภาพทางดาวเทียม พบว่าบริเวณห่างออกไปจากจุดที่มีการได้ยินเสียง 100 เมตร มีหมู่บ้านจัดสรร และแคมป์คนงานก่อสร้าง
ระหว่างการค้นหา น.ส.หอมจันทร์ ศุภกิจดำรง อายุ 35 เจ้าของร้านเสริมสวยใกล้กับที่เกิดเหตุ ขณะที่กำลังดูการค้นหา ได้พบกับผ้าขนหนูตกอยู่บริเวณที่มีการค้นหา พร้อมกับบอกว่า ภาพเหตุการณ์ค้นหาเหมือนกับที่ตนเองฝัน ตอนที่กลับไปบ้านพัก จ.กาญจนบุรี จึงรีบกลับมา แล้วภาพเหตุการณ์ที่ฝันเหมือนกับตอนนี้ จากนั้นขอจุดธูป และชี้จุดไปยังบริเวณป่ากกบอกว่าเด็กอยู่บริเวณนั้น เจ้าหน้าที่จึงเข้าไปค้นหาแต่ไม่พบ
ต่อมาเจ้าหน้าที่ สมาคมเณรแก้วกู้ภัยทางหลวงสุพรรณบุรี ได้นำโดรนจับความร้อนมาบินเพื่อตรวจหา โดยพบว่า มีความเคลื่อนไหวของแมว จำนวน 3-4 และหนู ตัวเดินอยู่ในบริเวณของของป่าต้นกก ไม่พบว่าเป็นทากรกหรือเด็ก และยังพบความร้อนของสิ่งมีชีวิตในป่ากก จึงทำการค้นหาอีกครั้ง โดยเชื่อว่าหากเป็นทารกการจับความร้อน จะมองเห็นไม่ชัด หรือหากเป็นทารกน่าจะเสียชีวิตแล้ว ตรวจหาไม่พบ จึงระดมกำลังค้นหาอีกครั้ง จนถึงเวลา 02.30 น.ไม่พบ จึงยุติการค้นหาไว้ก่อนเนื่องจากค้นหามานานกว่า 8 ชั่วโมงแล้ว กำลังเจ้าหน้าที่บางส่วนเริ่มอ่อนล้าแล้ว เพื่อวางแผนการค้นหาอีกครั้ง