หนุ่มตกงาน ไม่ได้รับเงินเยียวยา แถมต้องทนควันพิษเข้าบ้านร้องเรียนมา 3 ปี ไร้ผล เครียดปีนขึ้นสะพานปรีดี
เมื่อเวลา 08.30 น.วันที่ 26 เม.ย. พ.ต.ท.พีรณัฐ งามเลิศรัตนชัย รองผกก.ป. สภ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา ได้รับแจ้งมีชายปีขึ้นไปบนโครงสะพานปรีดีธำรง ข้ามแม่น้ำป่าสัก อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมประสาน รถกระเช้า เทศบาลนครพระนครศรีอยุธยา เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญูอยุธยา นำรถพยาบาล และเรือเร็ว ไปให้ความช่วยเหลือ
บนโครงสะพานของสะพานปรีดีธำรง ขนาดความสูง 12 เมตร พบชายอายุประมาณ 35 ปี สวมแมสก์ สวมเสื้อกีฬาสีขาว กางเกง ยีนส์ขาสั้น นั่งคร่อมตัวโครงสะพานอยู่ เจ้าหน้าที่พยามเข้าพูดคุย เกลี่ยกล่อม สอบถามในเบื้องต้น ต้องการพบผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อร้องเรียนปัญหา
ต่อมา นางคนึง ธารีสิทธิ์ อายุ 45 ปี พี่สาวของชายที่จะกระโดดสะพาน พร้อมกับครอบครัวเดินทางมาที่เกิดเหตุ ร้องไห้ด้วยความตกใจและสงสารน้องชาย ได้พูดเกลี่ยกล่อมน้องชาย คือนายสมชาย ธารีสิทธิ์ อายุ 37 ปี มีอาชีพรับจ้างก่อสร้าง ช่วงนี้ตกงานไม่มีงานทำ ขาดรายได้ และเครียดปัญหา ที่บ้านพัก ใน ม.7 ต.บ้านใหม่ อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา มีโรงงานเผาอิฐ ควันลอยรบกวน หายใจไม่สะดวก เพราะที่บ้านมีทั้งเด็กและคนชรา และภรรยาของนายสมชาย ป่วยเป็นโรคหอบด้วย ร้องเรียนผ่านหน่วยงานต่างๆมาแล้ว หลายครั้งนานกว่า 3 ปี ยังไม่มีการช่วยเหลือแก้ไขปัญหา สงสารน้องชายมาก
เจ้าหน้าที่ได้แจ้ง กับนายสมชาย ว่าทางผู้ว่าราชการจังหวัดรับทราบปัญหาแล้ว ขอให้ลงมาพูดคุยกันจะช่วยแก้ไขปัญหาให้ เวลาผ่านไปประมาณ 1 ชั่วโมง นายสมชาย ธารีสิทธิ์ จึงยอมลงมาจากโครงสะพาน โดยมีนายสุรเชษฐ์ ชัยโกศล อดีตผู้สมัคร ส.ส.พระนครศรีอยุธยา เขต 1 พรรคเพื่อไทย ขึ้นกระเช้าไปรับตัวลงมาอย่างปลอดภัย พร้อมกับมอบเงินสดช่วยเหลือจำนวนหนึ่ง
นายสมชาย ธารีสิทธิ์ กล่าวว่า ตนเองต้องการพบนายภานุ แย้มศรี ผวจ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อช่วยแก้ไขปัญหา เรื่องควันจากโรงอิฐ ที่ลอยมารบกวนครอบครัวตนเองและคนในชุมชน ซึ่งร้องเรียนหน่วยงานต่างมาแล้วหลายครั้ง ไม่มีการแก้ไข ยังถูกเจ้าของโรงอิฐท้าทายว่าทำอะไรเขาไม่ได้ ยิ่งมาในช่วงโควิด-19 ให้หยุดอยู่บ้านกิจการต่างๆหยุด ตนเองมีอาชีพก่อสร้าง และรับจ้างทั่วไป ตกงาน ขาดรายได้ ได้ลงทะเบียนเยียวยา เงิน 5,000 บาท โครงการเราไม่ทิ้งกัน ยังไมได้รับเงิน อยู่ระหว่างรอผลการตรวจสอบ ทำให้เกิดความเครียด ช่วงกลางดึกควันจะลอยมาก สงสาร นางนงนุช บุญมัย อายุ 35 ปี ภรรยาของตนซึ่งป่วยโรคหอบ จะหายใจไม่ออก ต้องไปพบหมอซึ่งต้องมีค่าใช้จ่ายและหากเป็นช่วงเวลาเคอร์ฟิว กลัวจะถูกจับไม่กล้าออไป ทำให้เกิดความเครียดสะสมทุกวัน จึงตัดสินใจจะมากระโดดสะพานเพื่อเรียกร้องความเป็นธรรม
นางนงนุช บุญมัย อายุ 35 ปี ภรรยา ไม่คิดว่าสามีจะมาตัดสินใจแบบนี้ ครอบครัวเราและคนในชุมชน ต้องทนทุกข์กับ ปัญหาเรื่องของควันจากโรงอิฐมานานไม่ได้รับการแก้ไข สามีตกงาน ไม่ใครจ้างเกิดความเครียด
นางสยุมพร กุลสุ ผู้อำนวยการกลุ่มงานศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้เข้ามาพูดคุยปัญหา พร้อมทั้งกล่าวว่า เรื่องการร้องเรียน เรื่องควันของโรงอิฐ ทางศูนย์ดำรงธรรมได้รับทราบปัญหา และได้ให้ทาง อบต.บ้านใหม่ ดำเนินการ มาโดยตลอด เป็นการเจจรจา ปรับปรุงการผลิต ให้ลดควัน ไม่ให้เกิดผลกระทบ ต่อมาทราบว่า มีการกระทำความผิดเกี่ยว พ.ร.บ.อาคาร ซึ่งต่อไปเป็นขันตอนของการบังคับใช้กฎหมาย ซึ่งในวันที่ 27 เม.ย. จะเป็นการเข้าตรวจสอบเพื่อดำเนินการตามกฎหมาย